ในระหว่างที่ใช้โทรศัพท์หรือแชทวิดีโอ ฉันไม่สามารถได้ยินเสียงของคู่สนทนาหรือพวกเขาไม่สามารถได้ยินเสียงของฉัน (INZONE Buds)
ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อแก้ปัญหานี้:
- เลือกสถานการณ์ที่ปัญหาเกิดขึ้น:
- คอนโซลเกม (คอมพิวเตอร์หรือ PlayStation®5) หรือสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อกับหูฟังโดยใช้ตัวรับส่ง USB (USB transceiver)
- กรุณาไปที่ ขั้นตอนที่ 3
- สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่น ๆ เชื่อมต่อกับหูฟังผ่าน Bluetooth
- กรุณาไปที่ ขั้นตอนที่ 2
- ตรวจดูสิ่งต่อไปนี้ในอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่:
- ปรับการตั้งค่าระดับเสียงขึ้นบนอุปกรณ์ Bluetooth
- ถ้าหากปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข กรุณาตัดการเชื่อมต่อ Bluetooth กับหูฟังก่อนและเชื่อมต่อกลับเข้าไปใหม่
- ปัญหาได้รับการแก้ไข
- การเชื่อมต่อ Bluetooth อาจจะมีความไม่เสถียรชั่วคราว
- ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข
- ไปที่ ขั้นตอนที่ 13
- ตัดการเชื่อมต่อตัวรับส่ง USB (USB transceiver) ก่อนและเชื่อมต่อกลับเข้าไปใหม่ให้แน่นหนา
หมายเหตุ:
- ตรวจสอบให้มั่นใจว่าสวิตช์เลื่อนของตัวรับส่ง USB (USB transceiver) ตั้งไว้ในด้านที่ถูกต้อง (PC หรือ PS5)
- เชื่อมต่อตัวรับส่ง USB (USB transceiver) เข้ากับคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟนหรือ PlayStation 5 โดยตรง
- สำหรับรายละเอียดวิธีการเชื่อมต่อหูฟัง กรุณาอ้างอิงกับ คู่มือช่วยเหลือ (Help Guide)
การเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์, PlayStation®5 หรือ สมาร์ทโฟนที่ เข้ากันได้กับ USB Type-C ผ่านตัวรับส่ง USB (USB transceiver)
- ปัญหาได้รับการแก้ไข
- การเชื่อมต่อระหว่างหูฟัง และตัวรับส่ง USB (USB transceiver) อาจจะมีความไม่เสถียรชั่วคราว
- ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข
- กรุณาไปที่ ขั้นตอนที่ 4
- ตรวจสอบให้มั่นใจว่าสวิตช์เลื่อนของตัวรับส่ง USB (USB transceiver) ตั้งไว้ในด้านที่ถูกต้อง (PC หรือ PS5)
- ตัดการเชื่อมต่อ Bluetooth กับอุปกรณ์ใด ๆ ที่ท่านไม่ได้ใช้ในการใช้โทรศัพท์หรือแชท
หมายเหตุ: ใช้อุปกรณ์ Bluetooth ทำการหยุดการเชื่อมต่อ Bluetooth กับหูฟัง เสียงการแจ้งเตือนจะบอกถึงการยกเลิกการเชื่อมต่อ
- ปัญหาได้รับการแก้ไข
- เมื่อใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สาย 2.4 GHz กับคอมพิวเตอร์หรือ PlayStation 5 และการเชื่อมต่อ Bluetooth พร้อมกันไมโครโฟนอินพุตของหูฟังจะใช้สำหรับการโทรหรือแชทกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth และท่านจะไม่สามารถแชทในคอมพิวเตอร์หรือ PlayStation 5 ได้
- ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข
- กรุณาไปที่ ขั้นตอนที่ 5
- ตรวจดูการตั้งค่าของแอปพลิเคชันของการเล่นเกมหรือการโทร
หมายเหตุ: สำหรับรายละเอียดต่าง ๆ ในการตั้งค่า กรุณาอ้างอิงกับคู่มือของไซต์การสนับสนุนของแต่ละแอปพลิเคชัน
- ตรวจดูการตั้งค่าเสียงเอาต์พุตและอินพุตสำหรับการแชทด้วยเสียง
ในการตั้งค่าแอปพลิเคชัน ตรวจสอบให้มั่นใจว่าการตั้งค่าเอาต์พุตเสียงสำหรับเสียงการแชทตั้งไว้เป็น INZONE Buds - Chat
หมายเหตุ: ถ้าหากท่านเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่าน Bluetooth ตรวจสอบให้มั่นใจว่าการตั้งค่าเอาต์พุตเสียงของเสียงสนทนาตั้งไว้เป็น INZONE Buds. - ถ้าหากท่านใช้การตั้งค่า กดเพื่อพูด (Push to Talk) บน แอปพลิเคชัน กรุณาแตะยาวที่เซ็นเซอร์สัมผัสด้านข้าง L (ซ้าย) เพื่อเปิดเสียงไมโครโฟนของหูฟังก่อนที่จะเริ่มต้นการโทรหรือสนทนา
- ปัญหาได้รับการแก้ไข
- ปัญหาอาจจะเกิดจากการตั้งค่าของแอปพลิเคชัน
- ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข
-
- ถ้าหากท่านเชื่อมต่อหูฟังกับสมาร์ทโฟน และไม่ได้ยินเสียงของคู่สนทนา กรุณาไปที่ ขั้นตอนที่ 7
- ถ้าหากท่านเชื่อมต่อหูฟังกับคอมพิวเตอร์ และไม่ได้ยินเสียงของคู่สนทนา กรุณาไปที่ ขั้นตอนที่ 6
- ถ้าหากท่านเชื่อมต่อหูฟังกับ PlayStation 5 และไม่ได้ยินเสียงของคู่สนทนา กรุณาไปที่ ขั้นตอนที่ 8
- ถ้าหากท่านเชื่อมต่อหูฟังกับสมาร์ทโฟน และคู่สนทนาไม่ได้ยินเสียงของท่าน กรุณาไปที่ ขั้นตอนที่ 12
- ถ้าหากท่านเชื่อมต่อหูฟังกับคอมพิวเตอร์ หรือ PlayStation 5 และคู่สนทนาไม่ได้ยินเสียงของท่าน กรุณาไปที่ ขั้นตอนที่ 10
- ตรวจดูการตั้งค่าเสียงเอาต์พุตและอินพุตสำหรับการแชทด้วยเสียง
- ตั้งการตั้งค่าเอาต์พุตของคอมพิวเตอร์ไปเป็น INZONE Buds.
หมายเหตุ: ขั้นตอนต่อไปนี้ใช้กับคอมพิวเตอร์ Windows 10 สำหรับอ้างอิง รายการเมนูที่แสดงบนคอมพิวเตอร์อาจจะแตกต่างกันตามเวอร์ชันของ OS
- บนเมนู เริ่มต้น (Start) เปิด การตั้งค่า (Settings)
- เลือกที่ ระบบ (System) → การปรับเสียง (Sound)
- ตั้งการตั้งค่า เอาต์พุต (Output) ไปเป็น INZONE Buds - Game
คำชี้แนะ: ขึ้นกับแอปพลิเคชัน เสียงของคู่สนทนาอาจจะไม่ได้ยิน ถ้าหากท่านใช้แอปสลับการตั้งค่าในระหว่างการสนทนา
- ปัญหาได้รับการแก้ไข
- ปัญหานี้อาจจะเกิดจากการตั้งค่าของเสียงเอาต์พุตคอมพิวเตอร์
- ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข
- กรุณาไปที่ ขั้นตอนที่ 7
- ปรับแต่งระดับเสียงบนคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน
คลิกซ้ายที่ไอคอน ลำโพง (Speaker) บนคอมพิวเตอร์เพื่อปรับระดับเสียงขึ้นและตรวจดูว่าปัญหาหายไปหรือไม่
- ปัญหาได้รับการแก้ไข
- ปัญหาอาจจะเกิดจากการตั้งค่า ระดับเสียงหลัก (Master Volume)
- ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข
- กรุณาไปที่ ขั้นตอนที่ 8
- ปรับระดับเสียงขึ้นโดยใช้แป้นปรับ VOL (ระดับเสียง) –/+ ของหูฟัง
ท่านสามารถปรับแต่งระดับเสียงได้โดยการแตะที่เซ็นเซอร์สัมผัสด้านข้าง R (ขวา) ในระหว่างการเล่นเพลง ระดับเสียงจะเพิ่มขึ้นหนึ่งขั้นในการแตะแต่ละครั้ง
หมายเหตุ:
- ถ้าต้องการสั่งงานเซ็นเซอร์การแตะ กรุณาใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วกลางจับหูฟังไว้ และแตะตรงกลางของเซ็นเซอร์การแตะโดยใช้นิ้วชี้ ถ้าหากท่านแตะด้วยนิ้วก้อยหรือปลายนิ้ว แตะที่ขอบของเซ็นเซอร์การแตะ หรือกดเซ็นเซอร์การแตะแรงเกินไป หูฟังอาจจะทำงานได้ไม่ดี
- ถ้าหากระดับเสียงมีการตั้งไว้ต่ำบนอุปกรณ์ Bluetooth ที่เชื่อมต่ออยู่ระดับเสียงอาจจะไม่เพิ่มตามที่คาดไว้จากการใช้แป้นปรับของหูฟัง ถ้าเป็นในกรณีนี้ กรุณาปรับเพิ่มระดับเสียงบนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
- ปัญหาได้รับการแก้ไข
- ปัญหาเกิดจากการตั้งค่าของระดับเสียง
- ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข
- ไปที่ ขั้นตอนที่ 9
- ปรับสมดุลระดับเสียงระหว่างเกมและแชท
ท่านสามารถกำหนดฟังก์ชันของเซนเซอร์การแตะไปเป็นฟังก์ชัน การควบคุมสมดุลเกม/แชท (Game/Chat Balance Control) โดยใช้ซอฟต์แวร์ INZONE Hub การทำเช่นนั้นจะเปิดใช้งานการสลับง่าย ๆ ของระดับเสียงที่ได้ยินจะต่ำกว่าระหว่างเสียงพูดหรือเสียงเกม
- ปัญหาได้รับการแก้ไข
- ปัญหาเกิดจากการสมดุลของระดับเสียง
- ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข
- ไปที่ ขั้นตอนที่ 12
- ปรับแต่งระดับไมโครโฟนของคอมพิวเตอร์หรือ PlayStation 5
- สำหรับคอมพิวเตอร์ Windows
หมายเหตุ: ขั้นตอนต่อไปนี้ใช้กับคอมพิวเตอร์ Windows 10 สำหรับอ้างอิง รายการเมนูที่แสดงบนคอมพิวเตอร์อาจจะแตกต่างกันตามเวอร์ชันของ OS- บนเมนู เริ่มต้น (Start) เปิด การตั้งค่า (Settings)
- เลือกที่ ระบบ (System) → การปรับเสียง (Sound)
- บนแท็บ การบันทึก (Recording) กรุณาเลือกที่ INZONE Buds ตามรุ่นของท่าน และคลิกที่ปุ่ม คุณสมบัติ (Properties)
- เลือกที่แท็บ ระดับ (Level) และเลื่อนแถบไปเพื่อปรับระดับ
- สำหรับ PlayStation 5
- บนหน้าจอ ศูนย์ควบคุม (Control Center) เลือกที่ ไมโครโฟน (Microphone)
- เลือกที่ ปรับแต่งระดับไมโครโฟน (Adjust Microphone Level) → ระดับไมโครโฟน (Microphone Level) และเลื่อนแถบไปเพื่อปรับระดับ
- ปัญหาได้รับการแก้ไข
- ปัญหาอาจจะมาจากการตั้งค่าของไมโครโฟน
- ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข
-
- ถ้าหากท่านเชื่อมต่อหูฟังกับคอมพิวเตอร์ ให้ไปที่ ขั้นตอนที่ 11
- ถ้าหากท่านเชื่อมต่อหูฟังกับ PlayStation 5 กรุณาไปที่ ขั้นตอนที่ 12
- สำหรับคอมพิวเตอร์ Windows
- ตั้งการตั้งค่าไมโครโฟนไปเป็น INZONE Buds - Chat ตามรุ่นเครื่องของท่าน
หมายเหตุ: ขั้นตอนต่อไปนี้ใช้กับคอมพิวเตอร์ Windows 10 สำหรับอ้างอิง รายการเมนูที่แสดงบนคอมพิวเตอร์อาจจะแตกต่างกันตามเวอร์ชันของ OS
- บนด้านขวาของหน้าจอคอมพิวเตอร์ กรุณาคลิกขวาที่ไอคอน ลำโพง (Speaker)
- เลือกที่ เปิดการตั้งค่าเสียง (Open Sound settings) และจากนั้นเลือกที่ แผงควบคุมเสียง (Sound Control Panel)
- บนแท็บ การบันทึก (Recording) กรุณาเลือกที่ INZONE Buds - Chat และคลิกที่ ตกลง (OK)
- ปัญหาได้รับการแก้ไข
- ปัญหาอาจจะมาจากการตั้งค่าระดับของไมโครโฟน
- ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข
- ไปที่ ขั้นตอนที่ 12
- กรุณาลองทำการจับคู่หูฟังและตัวรับส่ง USB (USB transceiver) อีกครั้ง
ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อทำการจับคู่อีกครั้งกับตัวรับส่ง USB (USB transceiver):
- เชื่อมต่อตัวรับส่ง USB (USB transceiver) เข้ากับคอมพิวเตอร์หรือ PlayStation 5
- ใส่เอียร์บัดเข้าไปเคสสำหรับชาร์จและเปิดฝาไว้
- ในขณะที่ฝาของเคสสำหรับชาร์จเปิดอยู่ กดค้างที่ปุ่ม การจับคู่ (Pairing) ของเคสสำหรับชาร์จไว้นาน 5 วินาทีหรือมากกว่า
หมายเหตุ: หูฟังจะเข้าสู่โหมดการจับคู่ และตัวแสดงสถานะบนเคสสำหรับชาร์จจะกะพริบเป็นสีฟ้าสองครั้งในแตะละรอบ - กดค้างที่ปุ่ม เชื่อมต่อ (Connect) บนตัวรับส่ง USB (USB transceiver) นานประมาณ 5 วินาทีหรือมากกว่า ตัวรับส่ง USB (USB transceiver) เข้าสู่โหมดจับคู่ และ ตัวแสดงสถานะการเชื่อมต่อ บนตัวรับส่ง USB (USB transceiver) กะพริบเป็นสีขาวสองครั้งในแต่ละรอบ
หมายเหตุ: ถ้าต้องการกดปุ่ม เชื่อมต่อ (Connect) กรุณาใช้บางอย่างที่ปลายเล็กที่จะไม่หัก เช่นคลิปหนีบกระดาษ - นำหูฟังออกจากเคสสำหรับชาร์จและใส่เข้าไปในหู เมื่อการจับคู่เสร็จสิ้น จะมีเสียงการแจ้งเตือนออกใสและ ตัวแสดงสถานะการจับคู่ บนตัวรับส่ง USB (USB transceiver) จะติดสว่างเป็นสีขาว
- ปัญหาได้รับการแก้ไข
- ปัญหาอาจจะมีสาเหตุมาจากการเชื่อมต่อระหว่างหูฟัง และตัวรับส่ง USB (USB transceiver)
- ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข
- ไปที่ ขั้นตอนที่ 13
- ปิดแอปเล่นเกมลงไปก่อนและเริ่มการทำงานขึ้นมาใหม่
- ปัญหาได้รับการแก้ไข
- ปัญหาอาจจะเกิดจากการทำงานผิดปกติชั่วคราวของแอปเล่นเกม
- ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข
- กรุณาไปที่ ขั้นตอนที่ 14
- กรุณาเริ่มการทำงานใหม่ให้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
- ปัญหาได้รับการแก้ไข
- ปัญหาอาจจะเกิดจากการทำงานผิดปกติชั่วคราวของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ
- ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข
- กรุณาไปที่ ขั้นตอนที่ 15
- ทำการรีเซ็ตหูฟัง
หมายเหตุ: ข้อมูลการจับคู่ Bluetooth และการตั้งค่าอื่นจะยังคงอยู่หลังการรีเซ็ต
- ใส่เอียร์บัดเข้าไปในเคสสำหรับชาร์จ
- เปิดฝาเคสสำหรับชาร์จไว้ กดค้างปุ่มรีเซ็ตที่อยู่ด้านหลังของเคสสำหรับชาร์จไว้ประมาณ 20 วินาทีหรือมากกว่า หลังจากประมาณ 15 วินาที ตัวแสดงสถานะบนเคสสำหรับชาร์จจะกะพริบเป็นสีส้มนานประมาณ 5 วินาที
- เมื่อตัวแสดงสถานะดับลงไป กรุณาปล่อยนิ้ว เมื่อการรีเซ็ตเสร็จสิ้น การชาร์จไฟจะเริ่มต้นขึ้น และตัวแสดงสถานะบนเคสสำหรับชาร์จจะติดสว่างเป็นสีส้มหรือสีเขียว
ท่านสามารถดูวิดีโอเรื่องวิธีการรีเซ็ตหูฟัง:
Tip: Tìm hiểu cách bật hoặc tắt phụ đề khi xem video trên Internet từ YouTube
- ปัญหาได้รับการแก้ไข
- ปัญหาอาจจะเกิดจากการทำงานผิดปกติชั่วคราวของหูฟัง
- ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข
- ไปที่ ขั้นตอนที่ 16
- การตั้งค่าเริ่มแรกให้กับหูฟัง
การปรับค่าเริ่มแรกจะทำให้หูฟังนั้นจะกลับไปสู่การตั้งค่าจากโรงงาน และข้อมูลการจับคู่ Bluetooth ทั้งหมดจะถูกลบออกไป
- ใส่เอียร์บัดเข้าไปในเคสสำหรับชาร์จ
- เปิดฝาเคสสำหรับชาร์จไว้ กดค้างปุ่มปรับค่าเริ่มแรกที่อยู่ด้านหลังของเคสสำหรับชาร์จไว้ประมาณ 15 วินาทีหรือมากกว่า หลังจากประมาณ 15 วินาที ตัวแสดงสถานะบนเคสสำหรับชาร์จจะกะพริบเป็นสีส้มนานประมาณ 5 วินาที
- ปล่อยนิ้วภายใน 5 วินาทีหลังตัวแสดงสถานะบนเคสสำหรับชาร์จเริ่มกะพริบเป็นสีส้ม เมื่อการปรับค่าเริ่มแรกเสร็จสิ้น ตัวแสดงสถานะจะกะพริบเป็นสีเขียว 4 ครั้ง
ท่านสามารถดูวีดีโอเรื่องวิธีการปรับค่าเริ่มแรกหูฟัง:
Tip: Tìm hiểu cách bật hoặc tắt phụ đề khi xem video trên Internet từ YouTube
- ปัญหาได้รับการแก้ไข
- ปัญหาอาจจะเกิดจากการทำงานผิดปกติชั่วคราวของหูฟัง
- ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข
- หูฟังอาจจะทำงานผิดปกติและอาจจะต้องได้รับการตรวจซ่อม