หมายเลข ID หัวข้อ : 00286188 / ปรับปรุงครั้งล่าสุด : 21/05/2024พิมพ์

ฉันไม่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตโดยใช้การเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้

    โปรดลองวิธีเหล่านี้ทีละข้อ กรุณาตรวจสอบหลังดำเนินการแต่ละวิธีว่าแก้ปัญหาได้หรือไม่ ก่อนลองวิธีถัดไป

    • ตรวจสอบให้มั่นใจว่าเราเตอร์ Wi-Fi ของท่านเปิดอยู่ และท่านอยู่ในระยะของการใช้งานเราเตอร์นั้นได้ ตรวจดูความแรงสัญญาณ Wi-Fi ในแถบสถานะของอุปกรณ์ Xperia ของท่าน ถ้าหากสัญญาณต่ำ หรือไม่มีสัญญาณ กรุณาขยับเข้าใกล้เราเตอร์มากขึ้น ถ้าหากท่านอยู่ในสถานที่สาธารณะ กรุณาขยับเข้าใกล้ Wi-Fi ฮอตสปอต ซึ่งก็คืออุปกรณ์ที่ให้บริการเครือข่าย Wi-Fi นั้น
    • ตรวจสอบให้มั่นใจว่า Wi-Fi เปิดอยู่ในอุปกรณ์ Xperia ของท่านและท่านสามารถมองเห็นเครือข่าย Wi-Fi ของท่านได้ใน การตั้งค่า (Settings) ถ้าหาก เชื่อมต่อแล้ว (Connected) ปรากฎใต้ชื่อเครือข่าย แสดงว่าท่านเชื่อมต่อแล้ว ถ้าหากไม่มี กรุณาแตะที่ชื่อเครือข่ายเพื่อเชื่อมต่อ สำหรับเครือข่ายที่มีการรักษาความปลอดภัย กรุณาป้อนรหัสผ่านที่เกี่ยวข้อง ติดต่อกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของท่าน หรือแอดมินเครือข่าย Wi-Fi ในองค์กรของท่าน ถ้าหากท่านไม่มีรหัสผ่าน
    • ถ้าหากท่านอยู่ในตำแหน่งที่มี Wi-Fi ฮอตสปอตหลายอัน ตรวจสอบให้มั่นใจว่าท่านได้เลือกฮอตสปอตที่ถูกต้องแล้ว
    • เครือข่าย Wi-Fi บางอันจะกำหนดให้มีการลงชื่อเข้าใช้เว็บเพจก่อน ท่านจึงจะเข้าถึงเครือข่ายได้ เปิดเว็บเบราว์เซอร์ในอุปกรณ์ของท่านขึ้นมาเพื่อลงชื่อเข้าใช้ ติดต่อกับแอดมินของเครือข่าย Wi-Fi นั้นสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
    • กรุณาอย่าปิดกั้นบริเวณสายอากาศ Wi-Fi ของอุปกรณ์ของท่าน
    • เริ่มการทำงานใหม่ให้กับอุปกรณ์ ปิด Wi-Fi และจากนั้นเปิดขึ้นมาใหม่
    • Android เวอร์ชัน 4.3–5.1: ปิด Wi-Fi ปิดใช้งาน ให้มีการสแกนอยู่เสมอ (Scanning always available) ในการตั้งค่า Wi-Fi เปิด Wi-Fi ขึ้นมาอีกครั้ง
    • เริ่มการทำงานของเราเตอร์ใหม่ ตรวจสอบว่าเราเตอร์ของท่านได้รับการรับรองว่าใช้ Wi-Fi ได้ อุปกรณ์ของท่านได้รับการรับรองว่าใช้ Wi-Fi ได้ ดังนั้นหากเราเตอร์ไม่ได้รับการรับรอง อุปกรณ์อาจสื่อสารกันได้ไม่ถูกต้อง
    • ตรวจสอบให้มั่นใจว่าทั้งอุปกรณ์ Xperia และเราเตอร์ใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชันล่าสุดอยู่
      • ถ้าหากท่านไม่แน่ใจถึงวิธีการอัปเดตซอฟต์แวร์เราเตอร์ กรุณาตรวจสอบคู่มือผู้ใช้ของเราเตอร์ หรือติดต่อกับผู้ผลิตเราเตอร์
    • ตรวจดูการตั้งค่าเราเตอร์โดยใช้คอมพิวเตอร์ของท่าน ถ้าหากท่านไม่แน่ใจถึงวิธีการเปลี่ยนการตั้งค่า กรุณาตรวจสอบคู่มือผู้ใช้ของเราเตอร์ หรือติดต่อกับผู้ผลิตเราเตอร์
      • โหมด/ความเร็วเครือข่าย: เปลี่ยนเป็นโหมด อัตโนมัติ หรือ ผสม แทนที่จะเป็น b, g หรือ n
      • SSID และ รหัสผ่าน: ตรวจสอบว่าไม่มีอักขระพิเศษหรืออักขระที่ไม่อยู่ในชุดอักขระ ASCII มาตรฐาน
      • DHCP: ตรวจสอบให้มั่นใจว่าได้มีการเปิดในเราเตอร์แล้ว ท่านยังสามารถจะลองตั้งค่า IP แอดเดรสแบบ Static ในอุปกรณ์ Xperia ได้ด้วย ถ้าหากท่านมีปัญหาในการเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตโดยใช้การเชื่อมต่อ ‎Wi-Fi‎ ของท่าน ติดต่อกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของท่านสำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการตั้งค่า IP แอดเดรส
      • ตัวกรอง MAC: ตรวจสอบว่าปิดอยู่ นอกจากนี้ลองตั้งอุปกรณ์ของท่านเป็นยินยอมด้วย โดยการเพิ่ม MAC แอดเดรสอุปกรณ์ของท่านเข้ากับตารางตัวกรอง MAC ของเราเตอร์ Wi-Fi เราเตอร์บางรุ่นกำหนดให้ต้องใช้ที่อยู่ MAC แอดเดรสของท่าน สำหรับคำแนะนำในวิธีการเพิ่ม MAC แอดเดรสเข้ากับตารางตัวกรอง MAC ของเราเตอร์ กรุณาตรวจดูคู่มือผู้ใช้สำหรับเราเตอร์หรือติดต่อกับผู้ผลิตเราเตอร์ของท่าน
      • ช่องสัญญาณ: ลองใช้ช่องสัญญาณอื่น ควรเป็นช่องสัญญาณหมายเลข 11 หรือต่ำกว่า ตรวจดูว่าจุดเข้าถึง/เราเตอร์ (Access point/router) ของท่านไม่ได้ตั้งให้ใช้ช่องสัญญาณ 12 หรือ 13 ช่องสัญญาณเหล่านี้ไม่รองรับในตลาดทั้งหมด
      • เปลี่ยนความปลอดภัยเครือข่าย Wi-Fi ของเราเตอร์ของท่านเป็นการเข้ารหัสความปลอดภัยที่แตกต่างออกไป สำหรับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีเปลี่ยนความปลอดภัยเครือข่าย กรุณาตรวจสอบคู่มือผู้ใช้ของเราเตอร์หรือติดต่อผู้ผลิตเราเตอร์ของท่าน
    • ในอุปกรณ์ Xperia ของท่าน ตั้งค่า Wi-Fi sleep policy ให้เปิด Wi-Fi ในระหว่างที่พักการทำงาน (Keep Wi-Fi on during sleep) ไปที่เสมอ (Always) อุปกรณ์จะเชื่อมต่อตลอดเวลากับเครือข่าย Wi-Fi ปัจจุบันแม้ในตอนพร้อมใช้งาน (Standby)
    • Bluetooth®และ Wi-Fi มักจะใช้ย่านความถี่เดียวกันที่ 2.4GHz ถ้าหากมีให้ กรุณาตั้งอุปกรณ์ของท่านให้ใช้การเชื่อมต่อ Wi-Fi ไปเป็นของย่านความถี่ 5GHz หรือ ปิด Bluetooth®ถ้าหากท่านไม่ได้ต้องการใช้
    • เมื่อท่านใช้การเชื่อมต่อ Wi-Fi ในเครือข่ายท้องถิ่น ที่มีอุปกรณ์อื่น ๆ จำนวนมากใช้เราเตอร์เดียวกันหรือหลายตัวประสิทธิภาพของ Wi-Fi อาจจะได้รับผลกระทบ ดังนั้นโปรดทราบว่าประสิทธิภาพของ Wi-Fi อาจจะแย่ลงได้ด้วยเมื่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ใช้ความถี่ Wi-Fi ย่านเดียวกันเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi และเราเตอร์ที่แตกต่างกันในพื้นที่เดียวกัน ถ้าหากมีให้ กรุณาตั้งอุปกรณ์ของท่านให้ใช้การเชื่อมต่อ Wi-Fi ไปเป็นของย่านความถี่ 5GHz
    • ตรวจสอบว่าอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อาจส่งสัญญาณรบกวนไม่ได้อยู่ใกล้กับเราเตอร์ ‎Wi-Fi‎ โทรศัพท์ไร้สาย เตาอบไมโครเวฟ เบบี้มอนิเตอร์ ลำโพงไร้สาย จอภาพ และเครื่องส่งสัญญาณวิดีโอที่ทำงานในช่วงความถี่ 2.4 GHz หรือ 5 GHz อาจรบกวนเครือข่าย ‎Wi-Fi‎ หากปัญหายังคงอยู่ กรุณาลองเปลี่ยนการตั้งค่าช่วงความถี่ของเราเตอร์เป็น 5 GHz หรือ 2.4 GHz สำหรับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีเปลี่ยนการตั้งค่าช่องสัญญาณของเราเตอร์ กรุณาตรวจสอบคู่มือผู้ใช้ของเราเตอร์หรือติดต่อผู้ผลิตเราเตอร์ของท่าน
    • ดำเนินการรีเซ็ตให้เป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน บางครั้งนี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดหากอุปกรณ์ Xperia ของท่านทำงานไม่ปกติ แต่โปรดทราบว่าจะเป็นการลบเนื้อหาส่วนตัวที่บันทึกไว้ในหน่วยความจำของเครื่องออกทั้งหมด ตรวจสอบว่าได้สำรองข้อมูลที่ท่านต้องการเก็บไว้แล้ว

    ปิดใช้งานการตั้งค่าให้มีการสแกนได้ตลอดเวลา (Scanning always available)

    Android 4.3, 4.4, 5.0 หรือ 5.1

    วิธีการปิดใช้งานการตั้งค่าให้มีการสแกนได้ตลอดเวลา (Scanning always available)

    1. แตะไอคอนหน้าจอแอปพลิเคชันจากหน้าจอหลัก (Home)
    2. หาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) Wi-Fi
    3. แตะปุ่มเมนู (สามจุดแนวตั้ง)
    4. แตะที่ ขั้นสูง (Advanced)
    5. ปิดใช้งาน การตั้งค่าให้มีการสแกนได้ตลอดเวลา (Scanning always available)

    ตรวจดูว่าเราเตอร์ของท่านได้รับการรับรอง Wi-Fi หรือไม่

    วิธีตรวจสอบว่าเราเตอร์ของท่านได้รับการรับรอง Wi-Fi หรือไม่

    • มองหาโลโก้ Wi-Fi CERTIFIED หรือคำนี้บนบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์หรือในเอกสารของผลิตภัณฑ์ หรือค้นหาฐานข้อมูลผลิตภัณฑ์ Wi-Fi CERTIFIED ในเว็บไซต์ Wi-Fi Alliance ที่ www.wi-fi.org

    การหา MAC แอดเดรส

    Android 11 หรือ 12 หรือ 13 หรือ 14

    วิธีตรวจสอบที่อยู่ MAC แอดเดรสของอุปกรณ์

    1. หาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) → เกี่ยวกับโทรศัพท์ (About phone)
    2. เลื่อนลงไปเพื่อดู MAC แอดเดรสของอุปกรณ์ Wi-Fi (Device Wi-Fi MAC address)

    Android 8.x, 9,10

    วิธีตรวจสอบที่อยู่ MAC แอดเดรสของอุปกรณ์

    1. หาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต (Network & Internet) Wi-Fi การตั้งค่า Wi-Fi (Wi-Fi preferences) ขั้นสูง (Advanced)
    2. เลื่อนลงไปเพื่อดู MAC แอดเดรส

    Android 7.0 หรือ 7.1

    วิธีตรวจสอบที่อยู่ MAC แอดเดรสของอุปกรณ์

    1. หาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) Wi-Fi
    2. แตะที่ปุ่มการตั้งค่า (ล้อเฟือง)
    3. เลื่อนลงไปเพื่อดู Wi-Fi MAC แอดเดรส

    Android 6.0 หรือก่อนหน้านั้น

    วิธีตรวจสอบที่อยู่ MAC แอดเดรสของอุปกรณ์

    1. หาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) Wi-Fi
    2. แตะที่ปุ่มเมนู (สามจุดแนวตั้ง) การตั้งค่า (Settings)
    3. เลื่อนลงไปเพื่อดู Wi-Fi MAC แอดเดรส

    การตั้งค่า IP แอดเดรสแบบ Static

    Android 9, 10 หรือ 11 หรือ 12 หรือ 13 หรือ 14

    วิธีตั้งค่า IP แอดเดรสอุปกรณ์ของท่านด้วยตนเอง

    1. หาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต (Network & Internet) Wi-Fi / อินเทอร์เน็ต (Internet)
    2. แตะเครือข่าย Wi-Fi ที่ท่านกำลังเชื่อมต่ออยู่ปัจจุบัน
    3. แตะไอคอนดินสอ
    4. แตะที่ ตัวเลือกขั้นสูง (Advanced options) ถ้าหากท่านไม่สามารถดูตัวเลือกนี้ได้ กรุณาปิดแป้นพิมพ์
    5. ใน การตั้งค่า IP (IP Settings) แตะที่ DHCP
    6. แตะที่ Static และจากนั้นป้อนการตั้งค่าที่ต้องการเข้าไป
    7. เมื่อท่านทำเสร็จสิ้นแล้ว แตะที่ บันทึก (Save)

    Android 8.0

    วิธีตั้งค่า IP แอดเดรสอุปกรณ์ของท่านด้วยตนเอง

    1. หาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต (Network & internet) Wi-Fi
    2. แตะค้างที่เครือข่าย Wi-Fi ที่ท่านเชื่อมต่ออยู่ปัจจุบัน จากนั้นแตะที่ แก้ไขเครือข่าย (Modify network)
    3. แตะที่ ตัวเลือกขั้นสูง (Advanced options) ถ้าหากท่านไม่สามารถดูตัวเลือกนี้ได้ กรุณาปิดแป้นพิมพ์
    4. ใน การตั้งค่า IP (IP Settings) แตะที่ DHCP
    5. แตะที่ Static และจากนั้นป้อนการตั้งค่าที่ต้องการเข้าไป
    6. เมื่อท่านทำเสร็จสิ้นแล้ว แตะที่ บันทึก (Save)

    Android 5.0, 6.0, 7.0 หรือ 7.1

    วิธีตั้งค่า IP แอดเดรสอุปกรณ์ของท่านด้วยตนเอง

    1. แตะไอคอนหน้าจอแอปพลิเคชันจากหน้าจอหลัก (Home)
    2. หาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) Wi-Fi
    3. แตะค้างที่เครือข่าย Wi-Fi ที่ท่านเชื่อมต่ออยู่ปัจจุบัน จากนั้นแตะที่ แก้ไขเครือข่าย (Modify network)
    4. แตะที่ ตัวเลือกขั้นสูง (Advanced options) ถ้าหากท่านไม่สามารถดูตัวเลือกนี้ได้ กรุณาปิดแป้นพิมพ์
    5. ใน การตั้งค่า IP (IP Settings) แตะที่ DHCP
    6. แตะที่ Static และจากนั้นป้อนการตั้งค่าที่ต้องการเข้าไป
    7. เมื่อท่านทำเสร็จสิ้นแล้ว แตะที่ บันทึก (Save)

    Android 4.1, 4.2, 4.3 หรือ 4.4

    วิธีตั้งค่า IP แอดเดรสอุปกรณ์ของท่านด้วยตนเอง

    1. แตะไอคอนหน้าจอแอปพลิเคชันจากหน้าจอหลัก (Home)
    2. หาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) Wi-Fi
    3. แตะค้างที่เครือข่าย Wi-Fi ที่ท่านเชื่อมต่ออยู่ปัจจุบัน จากนั้นแตะที่ แก้ไขเครือข่าย (Modify network)
    4. ทำเครื่องหมายที่กล่องใส่เครื่องหมาย แสดงตัวเลือกขั้นสูง (Show advanced options)
    5. ใน การตั้งค่า IP (IP Settings) แตะที่ DHCP
    6. แตะที่ Static และจากนั้นป้อนการตั้งค่าที่ต้องการเข้าไป
    7. เมื่อท่านทำเสร็จสิ้นแล้ว กรุณาแตะที่ บันทึก (Save)

    การตรวจดู Wi-Fi sleep policy

    Android 8.0

    วิธีการตรวจดู Wi-Fi sleep policy

    1. หาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต (Network & Internet) Wi-Fi การตั้งค่า Wi-Fi (Wi-Fi preferences) ขั้นสูง (Advanced) เปิด Wi-Fi ไว้ในระหว่างพักการทำงาน (Keep Wi-Fi on during sleep)
    2. เลือกที่ เสมอ (Always) อุปกรณ์จะเชื่อมต่อตลอดเวลากับเครือข่าย Wi-Fi ปัจจุบันแม้ในตอนพร้อมใช้งาน (Standby)

    Android 7.0 หรือ 7.1

    วิธีการตรวจดู Wi-Fi sleep policy

    1. แตะไอคอนหน้าจอแอปพลิเคชันจากหน้าจอหลัก (Home)
    2. หาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) Wi-Fi
    3. แตะที่ไอคอนรูปเฟือง
    4. แตะที่ เปิด Wi-Fi ไว้ในระหว่างพักการทำงาน (Keep Wi-Fi on during sleep) และเลือกที่ เสมอ (Always) อุปกรณ์จะเชื่อมต่อตลอดเวลากับเครือข่าย Wi-Fi ปัจจุบันแม้ในตอนพร้อมใช้งาน (Standby)

    Android 4.2, 4.3, 4.4, 5.0, 5.1 หรือ 6.0

    วิธีการตรวจดู Wi-Fi sleep policy

    1. แตะไอคอนหน้าจอแอปพลิเคชันจากหน้าจอหลัก (Home)
    2. หาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) Wi-Fi
    3. แตะที่ปุ่มเมนู (สามจุดแนวตั้ง) จากนั้นแตะที่ การตั้งค่า (Settings) หรือ ขั้นสูง (Advanced)
    4. แตะที่ เปิด Wi-Fi ไว้ในระหว่างพักการทำงาน (Keep Wi-Fi on during sleep) และเลือกที่ เสมอ (Always) อุปกรณ์จะเชื่อมต่อตลอดเวลากับเครือข่าย Wi-Fi ปัจจุบันแม้ในตอนพร้อมใช้งาน (Standby)

    หมายเหตุ: กรุณาอ้างอิงกับ ลิงก์นี้ สำหรับข้อมูลเครื่องหมายการค้า