หมายเลข ID หัวข้อ : 00259673 / ปรับปรุงครั้งล่าสุด : 03/10/2024พิมพ์

หน้าจอไม่ปิดในระหว่างการโทรศัพท์ เมื่อท่านถือโทรศัพท์ไว้ใกล้กับใบหน้าของท่าน (Android 8.x หรือ ที่ต่ำกว่า)

    อุปกรณ์ของท่านมีตัวเซนเซอร์ที่จะตรวจจับการเข้าใกล้ เซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor) นี้จะปิดหน้าจอสัมผัสในระหว่างการโทรด้วยเสียงเมื่อหูของท่านอยู่ใกล้กับหน้าจอ เป็นการป้องกันท่านที่จะทำการเปิดฟังก์ชันอื่นโดยไม่ตั้งใจในอุปกรณ์ของท่านเมื่อท่านกำลังโทรศัพท์ เซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor) จะอยู่ที่ส่วนบนของด้านหน้าของโทรศัพท์ (เหนือหน้าจอ) เวลาที่ต้องใช้สำหรับเซนเซอร์ในการเปิดหรือปิดหน้าจอก่อนและหลังการโทรศัพท์จะคงที่ จะใช้เวลาสองสามวินาทีในการเปิดหรือปิดหน้าจอ

    เซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor) อาจจะไม่ทำงานตามที่ตั้งไว้ในกรณีต่อไปนี้:

    • ท่านอาจจะลืมถอดแผ่นฟิล์มใสป้องกันชั่วคราวที่ปิดที่หน้าจอสัมผัสออกเมื่อท่านซื้อมาในครั้งแรก แผ่นฟิล์มดังกล่าวออกแบบมาเพื่อป้องกันหน้าจอระหว่างการจัดส่งเท่านั้น และลอกออกได้ง่าย บ่อยครั้งท่านจะรับรู้ได้จากปลายที่ยื่นออกมา
    • ถ้าอุปกรณ์ของท่านมีฟิล์มสำหรับป้องกัน กรุณาตรวจสอบให้มั่นใจว่าเป็นของที่ใช้สำหรับเครื่อง Xperia™ โดยเฉพาะ เป็นเรื่องสำคัญที่ฟิล์มดังกล่าวจะมีรูสำหรับเซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor) และกล้องด้านหน้าที่มีตำแหน่งถูกต้อง
    • กรุณาตรวจสอบให้มั่นใจว่าเซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor) สะอาด ปัญหาจำนวนมากที่เกี่ยวกับเซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor) นี้อาจจะแก้ไขได้โดยการทำความสะอาด
    • ถ้าหากท่านใช้เคส หรือสิ่งปิดคลุมที่ไม่พอดีกับโทรศัพท์ อาจจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของเซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor) นี้ได้ ตัวเคสอาจจะปิดคลุมตัวเซนเซอร์อยู่
    • อาจจะมีสาเหตุอื่นที่ทำให้เซนเซอร์ไม่ทำงานตามที่ตั้งไว้

    โปรดลองวิธีเหล่านี้ทีละข้อ ตรวจสอบหลังดำเนินการแต่ละวิธีว่าแก้ปัญหาได้หรือไม่ก่อนลองวิธีถัดไป

    • ตรวจสอบให้มั่นใจว่าได้ถอดแผ่นฟิล์มใสป้องกันชั่วคราวที่ปิดที่หน้าจอสัมผัสออกแล้ว เมื่อตอนที่ท่านซื้อมาในครั้งแรก ฟิล์มนี้จะมีปลายยื่นออกมาให้ดึง
      หมายเหตุ! ห้ามถอด ASF (ฟิล์มป้องกันกระจกแตก (Anti-Shatter Film)) บาง ๆ ออก ถ้าหากอุปกรณ์ของท่านมีอยู่ ซึ่งใส่ไว้ป้องกันการเกิดรอยขีดข่วน
    • ตรวจดูฟิล์มป้องกันใด ๆ ที่อุปกรณ์ของท่านใช้อยู่ (ที่ไม่ได้เป็นฟิล์มบางป้องกันกระจกแตกจากโรงงาน) ว่ามีช่องสำหรับเซนเซอร์ระยะใกล้ และกล้องด้านหน้าอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ตัวเซนเซอร์จะอยู่ที่ด้านบนสุดของอุปกรณ์เหนือหน้าจอ ถ้าต้องการตรวจสอบตำแหน่งที่แท้จริงของเซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor) สำหรับเครื่อง Xperia ของท่าน กรุณาอ้างอิงกับคู่มือสำหรับผู้ใช้ ท่านสามารถดูภาพของอุปกรณ์และชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์หลักได้ในหัวข้อของ เริ่มต้นใช้งาน (Getting Started) ใน ภาพรวม (Overview) ถ้าหากท่านไม่สามารถตรวจดูได้ว่าฟิล์มป้องกันนี้มีการใส่ไว้อย่างถูกต้อง ถ้ามีให้ถอดออก แต่อย่าแกะฟิล์มบางป้องกันกระจกแตกจากโรงงานออก
    • ทำความสะอาดตัวเซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor)
    • ถอดเคสหรือสิ่งปิดคลุมใด ๆ ที่ท่านใช้กับโทรศัพท์ของท่านออก
    • บังคับให้โทรศัพท์เริ่มการทำงานใหม่
    • การทดสอบเซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor) ในโทรศัพท์ของท่าน
    • กรุณาตรวจสอบให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ของท่านมีการชาร์จไฟไว้เต็มแล้ว จากนั้นทำการอัปเดตซอฟต์แวร์ระบบ ถ้าหากมีให้
    • สำรองข้อมูลสำคัญใด ๆ ที่เก็บไว้ในอุปกรณ์ของท่าน จากนั้นดำเนินการรีเซ็ตข้อมูลให้เป็นค่าจากโรงงาน
    • กรุณาติดต่อกับผู้จัดจำหน่ายเดิมหรือ ติดต่อกับเรา ถ้าหากท่านต้องส่งมอบอุปกรณ์ของท่านเพื่อรับบริการตรวจซ่อม กรุณาสำรองของมูลทั้งหมดที่ท่านต้องการจะเก็บไว้ก่อน ข้อมูลในอุปกรณ์จะถูกลบหายไปในการตรวจสอบ นอกจากนี้ กรุณาทำการลบบัญชีผู้ใช้ Google ทั้งหมดที่ท่านมีในอุปกรณ์ของท่านก่อนการส่งมอบ อย่าลืมที่จะมอบเอกสารที่เหมาะสม เช่นเอกสารแสดงการซื้อและใบรับประกันให้ด้วย เอกสารที่ต้องใช้นั้นต่างกันไปตามตลาด ประเทศ หรือภูมิภาคแต่ละแห่ง

    หมายเหตุ: ถ้าขั้นตอนต่อไปนี้ใช้ไม่ได้ หรือการทดสอบการเข้าใกล้ให้ผลเป็นลบ กรุณาติดต่อกับศููนย์บริการที่อยู่ใกล้ท่านที่สุด กรุณาตรวจสอบว่า อุปกรณ์่ของท่านไม่ได้อยู่นอกเงื่อนไขหรือไม่สามารถเข้ารับบริการตรวจซ่อมได้


    วิธีบังคับให้อุปกรณ์เริ่มทำงานใหม่

    1. กดค้างที่ทั้งคีย์ปรับระดับเสียงขึ้นและคีย์เปิดปิดเครื่อง (Power) จนอุปกรณ์ของท่านสั่นสามครั้ง จากนั้นให้ปล่อยนิ้วจากคีย์ที่กด อุปกรณ์จะปิดเครื่องโดยอัตโนมัติ
    2. หลังอุปกรณ์ปิดตัวลงไป กรุณาทำการเริ่มการทำงานใหม่กับอุปกรณ์ของท่านโดยการกดที่คีย์เปิดปิดเครื่อง

    ถ้าต้องการทดสอบเซนเซอร์ระยะใกล้

    Android 8.x

    ถ้าต้องการทดสอบเซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor)

    1. หาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) > ระบบ (System) > เกี่ยวกับโทรศัพท์ (About Phone) > การสนับสนุน (Support) ถ้าเป็นการใช้การสนับสนุน (Support) นี้เป็นครั้งแรก กรุณาแตะที่ ยอมรับ (Accept) เพื่อตกลงยอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
    2. ในแท็บ เลื่อนลงไปและแตะที่ ใกล้ใบหู (Ear Proximity) และทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ

    Android 6.0, 7.0, 7.1 หรือ 7.1.1

    ถ้าต้องการทดสอบเซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor)

    1. แตะไอคอนหน้าจอแอปพลิเคชันจากหน้าจอหลัก (Home)
    2. หาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) > เกี่ยวกับโทรศัพท์ (About Phone) > การสนับสนุน (Support) ถ้าเป็นการใช้การสนับสนุน (Support) นี้เป็นครั้งแรก กรุณาแตะที่ ยอมรับ (Accept) เพื่อตกลงยอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
    3. ในแท็บ เลื่อนลงไปและแตะที่ ใกล้ใบหู (Ear Proximity) และทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ

    การอัปเดตซอฟต์แวร์ระบบ

    วิธีที่ง่ายที่สุดในการติดตั้งการอัปเดตซอฟต์แวร์ก็คือการดำเนินการแบบไร้สายจากอุปกรณ์ แต่อัปเดตบางอย่างอาจไม่มีให้ดาวน์โหลดแบบไร้สาย ในกรณีดังกล่าว ท่านจะต้องตรวจดูซอฟต์แวร์อันใหม่โดยใช้สาย USB และคอมพิวเตอร์ที่มี Xperia™ Companion

    Android 8.x

    วิธีดาวน์โหลดและติดตั้งการอัปเดตระบบแบบไร้สาย

    1. หากใช้อุปกรณ์ร่วมกับผู้ใช้หลายราย โปรดตรวจสอบว่าท่านลงชื่อเข้าใช้ในฐานะเจ้าของแล้ว
    2. ค้นหาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) > ระบบ (System) > การอัปเดตซอฟต์แวร์ (Software Update)
    3. ถ้ามีการอัปเดตระบบอยู่ กรุณาแตะที่ ดาวน์โหลด (Download) เพื่อดาวน์โหลดมาให้กับอุปกรณ์ของท่าน
    4. เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้ว กรุณาแตะที่ ทำต่อ (Continue) แล้วทำตามคำแนะนำในหน้าจอเพื่อติดตั้งให้เสร็จสมบูรณ์

    Android 7.1.1 หรือที่ต่ำกว่า

    วิธีดาวน์โหลดและติดตั้งการอัปเดตระบบแบบไร้สาย

    1. หากใช้อุปกรณ์ร่วมกับผู้ใช้หลายราย โปรดตรวจสอบว่าท่านลงชื่อเข้าใช้ในฐานะเจ้าของแล้ว
    2. แตะไอคอนหน้าจอแอปพลิเคชันจากหน้าจอหลัก (Home)
    3. ค้นหาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) > เกี่ยวกับโทรศัพท์ (About Phone) > การอัปเดตซอฟต์แวร์ (Software Update)
    4. ถ้ามีการอัปเดตระบบอยู่ ให้แตะที่ ดาวน์โหลด (Download) เพื่อดาวน์โหลดมาให้กับอุปกรณ์ของท่าน
    5. เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้ว กรุณาแตะที่ ทำต่อ (Continue) แล้วทำตามคำแนะนำในหน้าจอเพื่อติดตั้งให้เสร็จสมบูรณ์

    ทำการรีเซ็ตกลับไปเป็นค่าจากโรงงาน (Factory Data Reset)

    Android 8.x

    วิธีรีเซ็ตกลับไปเป็นค่าจากโรงงาน (Factory Data Reset)

    1. ทำการสำรองข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่ท่านต้องการจะเก็บและที่เก็บอยู่ในหน่วยความจำภายในของอุปกรณ์ของท่าน ภาพถ่าย วิดีโอ เพลง และข้อมูลอื่น ๆ ที่เก็บไว้ในการ์ดหน่วยความจำ ภายนอกจะไม่ถูกลบออกไป
    2. โปรดเตรียมชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของบัญชี Google™ ให้พร้อม หมายเหตุ! ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าความปลอดภัยของท่าน อาจจะต้องใส่บัญชีผู้ใช้ Google ที่ท่านใช้ในอุปกรณ์ Xperia ของท่านเพื่อให้สามารถใช้หลังการรีเซ็ตกลับไปเป็นค่าจากโรงงาน
    3. หาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) > ระบบ (System) > รีเซ็ต (Reset) > รีเซ็ตกลับไปเป็นค่าจากโรงงาน (Factory Data Reset)
    4. แตะ รีเซ็ตโทรศัพท์ (Reset Phone)
    5. หากจำเป็น กรุณาวาดรูปแบบ (Pattern) การปลดล็อกหน้าจอหรือป้อนรหัสผ่าน (Password) หรือรหัส PIN สำหรับปลดล็อกหน้าจอเพื่อดำเนินการต่อ
    6. ในการยืนยัน กรุณาแตะที่ ลบทุกอย่าง (Erase Everything)

    Android 5.0, 5.1, 6.0, 7.0, 7.1 หรือ 7.1.1

    วิธีรีเซ็ตกลับไปเป็นค่าจากโรงงาน (Factory Data Reset)

    1. ทำการสำรองข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่ท่านต้องการจะเก็บและที่เก็บอยู่ในหน่วยความจำภายในของอุปกรณ์ของท่าน ภาพถ่าย วิดีโอ เพลง และข้อมูลอื่น ๆ ที่เก็บไว้ในการ์ดหน่วยความจำ ภายนอกจะไม่ถูกลบออกไป
    2. โปรดเตรียมชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของบัญชี Google ให้พร้อม หมายเหตุ! ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าความปลอดภัยของท่าน อาจจะต้องใส่บัญชีผู้ใช้ Google ที่ท่านใช้ในอุปกรณ์ Xperia ของท่านเพื่อให้สามารถใช้หลังการรีเซ็ตกลับไปเป็นค่าจากโรงงาน
    3. แตะไอคอนหน้าจอแอปพลิเคชันจากหน้าจอหลัก (Home)
    4. ค้นหาและแตะ การตั้งค่า (Settings) > สำรองข้อมูลและรีเซ็ต (Backup & Reset) > รีเซ็ตกลับเป็นข้อมูลจากโรงงาน(Factory Data Reset)
    5. Android 5.0/5.1: ถ้าหากท่านต้องการจะลบข้อมูลด้วยเช่น รูปภาพ และ เพลง ที่เก็บไว้ในที่เก็บข้อมูลภายในอุปกรณ์ของท่าน กรุณาใส่เครื่องหมายเลือกที่กล่องเลือก ลบที่เก็บข้อมูลภายใน (Erase Internal Storage) (ไม่มีผลกับการ์ด SD)
    6. แตะที่ รีเซ็ตโทรศัพท์/แท็บเล็ต (Reset Phone/Tablet) หรือ ลบทุกอย่าง (Erase Everything)
    7. หากจำเป็น กรุณาวาดรูปแบบ (Pattern) การปลดล็อกหน้าจอหรือป้อนรหัสผ่าน (Password) หรือรหัส PIN สำหรับปลดล็อกหน้าจอเพื่อดำเนินการต่อ
    8. ในการยืนยัน กรุณาแตะที่ ลบทุกอย่าง (Erase Everything)