หมายเลข ID หัวข้อ : 00256519 / ปรับปรุงครั้งล่าสุด : 03/10/2024พิมพ์

หน้าจอไม่ปิดในระหว่างการโทรศัพท์ เมื่อท่านถือโทรศัพท์ไว้ใกล้กับใบหน้าของท่าน (Android 9.0 หรือที่สูงกว่า)

ทำไมหน้าจอไม่ปิดในระหว่างการโทรศัพท์ เมื่อท่านถือโทรศัพท์ไว้ใกล้กับใบหน้าของท่าน?

    ใช้ได้กับ

    • Android 9 หรือที่สูงกว่า

    วิธีแก้ปัญหา

    อุปกรณ์ของท่านมีตัวเซนเซอร์ที่จะตรวจจับการเข้าใกล้ เซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor) นี้จะปิดหน้าจอสัมผัสในระหว่างการโทรด้วยเสียงเมื่อหูของท่านอยู่ใกล้กับหน้าจอ เป็นการป้องกันท่านที่จะทำการเปิดฟังก์ชันอื่นโดยไม่ตั้งใจในอุปกรณ์ของท่านเมื่อท่านกำลังโทรศัพท์ เซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor) จะอยู่ที่ส่วนบนของด้านหน้าของโทรศัพท์ (เหนือหน้าจอ) เวลาที่ต้องใช้สำหรับเซนเซอร์ในการเปิดหรือปิดหน้าจอก่อนและหลังการโทรศัพท์จะคงที่ จะใช้เวลาสองสามวินาทีในการเปิดหรือปิดหน้าจอ

    เซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor) อาจจะไม่ทำงานตามที่ตั้งไว้ในกรณีต่อไปนี้:

    • ท่านอาจจะลืมถอดแผ่นฟิล์มใสป้องกันชั่วคราวที่ปิดที่หน้าจอสัมผัสออกเมื่อท่านซื้อมาในครั้งแรก แผ่นฟิล์มดังกล่าวออกแบบมาเพื่อป้องกันหน้าจอระหว่างการจัดส่งเท่านั้น และลอกออกได้ง่าย บ่อยครั้งท่านจะรับรู้ได้จากปลายที่ยื่นออกมา
    • ถ้าอุปกรณ์ของท่านมีฟิล์มสำหรับป้องกัน ตรวจสอบให้มั่นใจเป็นของที่ใช้สำหรับเครื่อง Xperia โดยเฉพาะ เป็นเรื่องสำคัญที่ฟิล์มดังกล่าวจะมีรูสำหรับเซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor) และกล้องด้านหน้าที่มีตำแหน่งถูกต้อง
    • ตรวจสอบให้มั่นใจว่าเซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor) สะอาด ปัญหาจำนวนมากที่เกี่ยวกับเซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor) นี้อาจจะแก้ไขได้โดยการทำความสะอาด
    • ถ้าหากท่านใช้เคส หรือสิ่งปิดคลุมที่ไม่พอดีกับโทรศัพท์ อาจจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของเซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor) นี้ได้ ตัวเคสอาจจะปิดคลุมตัวเซนเซอร์อยู่
    • อาจจะมีสาเหตุอื่นที่ทำให้เซนเซอร์ไม่ทำงานตามที่ตั้งไว้

    โปรดลองวิธีเหล่านี้ทีละข้อ ตรวจสอบหลังดำเนินการแต่ละวิธีว่าแก้ปัญหาได้หรือไม่ก่อนลองวิธีถัดไป

    • ตรวจสอบให้มั่นใจว่าได้ถอดแผ่นฟิล์มใสป้องกันชั่วคราวที่ปิดที่หน้าจอสัมผัสออกแล้ว เมื่อตอนที่ท่านซื้อมาในครั้งแรก ฟิล์มนี้จะมีปลายยื่นออกมาให้ดึง
    • ตรวจดูว่าฟิล์มใด ๆ ที่อุปกรณ์ของท่านใช้อยู่มีรูสำหรับเซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor) และกล้องด้านหน้าในตำแหน่งที่ถูกต้อง ตัวเซนเซอร์จะอยู่ที่ด้านบนสุดของอุปกรณ์เหนือหน้าจอ ถ้าต้องการตรวจสอบตำแหน่งที่แท้จริงของเซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor) สำหรับเครื่อง Xperia ของท่าน กรุณาอ้างอิงกับคู่มือสำหรับผู้ใช้ ท่านสามารถดูภาพของอุปกรณ์และชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์หลักได้ในหัวข้อของ เริ่มต้นใช้งาน (Getting Started) ใน ภาพรวม (Overview) ถ้าหากท่านไม่สามารถตรวจดูได้ว่าฟิล์มป้องกันนี้ไว้อย่างถูกต้อง กรุณาดึงออก
    • ทำความสะอาดตัวเซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor)
    • ถอดเคสหรือสิ่งปิดคลุมใด ๆ ที่ท่านใช้กับโทรศัพท์ของท่านออก
    • บังคับให้โทรศัพท์เริ่มการทำงานใหม่
    • การทดสอบเซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor) ในโทรศัพท์ของท่าน
    • ตรวจสอบให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ของท่านมีการชาร์จไฟไว้เต็มแล้ว จากนั้นทำการอัปเดตซอฟต์แวร์ระบบ ถ้าหากมีให้
    • สำรองข้อมูลสำคัญใด ๆ ที่เก็บไว้ในอุปกรณ์ของท่าน จากนั้นดำเนินการรีเซ็ตข้อมูลให้เป็นค่าจากโรงงาน
    • กรุณาติดต่อกับผู้จัดจำหน่ายเดิมหรือ ติดต่อกับเรา ถ้าหากท่านต้องส่งมอบอุปกรณ์ของท่านเพื่อรับบริการตรวจซ่อม กรุณาสำรองของมูลทั้งหมดที่ท่านต้องการจะเก็บไว้ก่อน ข้อมูลในอุปกรณ์จะถูกลบหายไปในการตรวจสอบ นอกจากนี้ กรุณาทำการลบบัญชีผู้ใช้ Google ทั้งหมดที่ท่านมีในอุปกรณ์ของท่านก่อนการส่งมอบ อย่าลืมที่จะมอบเอกสารที่เหมาะสม เช่นเอกสารแสดงการซื้อและใบรับประกันให้ด้วย เอกสารที่ต้องใช้นั้นต่างกันไปตามตลาด ประเทศ หรือภูมิภาคแต่ละแห่ง

    วิธีบังคับให้อุปกรณ์เริ่มการทำงานใหม่

    1. กดค้างที่ทั้งคีย์ปรับระดับเสียงขึ้นและคีย์เปิดปิดเครื่อง (Power) จนอุปกรณ์ของท่านสั่นสามครั้ง จากนั้นให้ปล่อยนิ้วจากคีย์ที่กด อุปกรณ์จะปิดเครื่องโดยอัตโนมัติ
    2. หลังอุปกรณ์ปิดตัวลงไป กรุณาทำการเริ่มการทำงานใหม่กับอุปกรณ์ของท่านโดยการกดที่คีย์เปิดปิดเครื่อง

    ถ้าต้องการทดสอบเซนเซอร์ระยะใกล้ (Proximity Sensor)

    1. ค้นหาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) > การสนับสนุน (Support) ถ้าเป็นการใช้การสนับสนุน (Support) นี้เป็นครั้งแรก กรุณาแตะที่ ยอมรับ (Accept) เพื่อตกลงยอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
    2. ในแท็บ เลื่อนลงไปและแตะที่ ใกล้ใบหู (Ear Proximity) และทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ

    วิธีรีเซ็ตกลับไปเป็นค่าจากโรงงาน (Factory Data Reset)

    1. ทำการสำรองข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่ท่านต้องการจะเก็บและที่เก็บไว้ในหน่วยความจำภายในของอุปกรณ์ของท่าน ภาพถ่าย วิดีโอ เพลง และข้อมูลอื่น ๆ ที่เก็บไว้ในการ์ดหน่วยความจำ ภายนอกจะไม่ถูกลบออกไป
    2. โปรดเตรียมชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของบัญชี Google™ ให้พร้อม หมายเหตุ! ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าความปลอดภัยของท่าน อาจจะต้องใส่บัญชีผู้ใช้ Google ที่ท่านใช้ในอุปกรณ์ Xperia ของท่านเพื่อให้สามารถใช้หลังการรีเซ็ตกลับไปเป็นค่าจากโรงงาน
    3. ค้นหาและแตะ การตั้งค่า (Settings) > ระบบ (System) > ขั้นสูง (Advanced) > ตัวเลือกการรีเซ็ต (Reset Options) > ลบข้อมูลทั้งหมด (รีเซ็ตกลับไปเป็นค่าจากโรงงาน (Erase All Data (Factory Reset)) > รีเซ็ตโทรศัพท์ (Reset Phone)
    4. หากจำเป็น กรุณาวาดรูปแบบ (Pattern) การปลดล็อกหน้าจอหรือป้อนรหัสผ่าน (Password) หรือรหัส PIN สำหรับปลดล็อกหน้าจอเพื่อดำเนินการต่อ
    5. กรุณาแตะที่ ลบทุกอย่างออก (Erase Everything)

    หมายเหตุ! เมื่อท่านดำเนินการรีเซ็ตข้อมูลให้กลับไปเป็นค่าจากโรงงาน (Factory Data Reset) จะเป็นการลบข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่เก็บไว้ในหน่วยจัดเก็บข้อมูลภายในอุปกรณ์ Xperia ของท่านออกไปด้วย กรุณาตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านได้สำรอง (Back Up) ข้อมูลที่เก็บไว้ในหน่วยจัดเก็บข้อมูลภายในที่ท่านต้องการจะเก็บไว้แล้วเสมอ ก่อนที่จะดำเนินการรีเซ็ตข้อมูลให้กลับไปเป็นค่าจากโรงงาน (Factory Data Reset) ภาพถ่าย วิดีโอ เพลง และเอกสารที่เก็บไว้ในการ์ด SD จะไม่ถูกลบออกในระหว่างการรีเซ็ตกลับข้อมูลให้กลับไปเป็นค่าจากโรงงาน (Factory Data Reset)

    การอัปเดตซอฟต์แวร์ระบบ

    วิธีที่ง่ายที่สุดในการติดตั้งการอัปเดตซอฟต์แวร์ก็คือการดำเนินการแบบไร้สายจากอุปกรณ์

    วิธีดาวน์โหลดและติดตั้งการอัปเดตระบบแบบไร้สาย

    1. หากท่านใช้อุปกรณ์ที่มีผู้ใช้หลายคน กรุณาตรวจสอบว่าท่านเข้าสู่ระบบในฐานะเจ้าของแล้ว
    2. ตรวจสอบให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ของท่านเชื่อมต่ออยู่กับอินเทอร์เน็ต แนะนำให้ใช้เครือข่าย Wi-Fi แทนเครือข่ายมือถือ ในการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ตัวใหม่ เพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าใช้ข้อมูลเน็ต
    3. หาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) > ระบบ (System) > ขั้นสูง (Advanced) > การอัปเดตซอฟต์แวร์ (Software Update) > ระบบ (System)
    4. ถ้ามีการอัปเดตระบบให้ กรุณาแตะที่ อัปเดต (Update)
    5. เมื่อการอัปเดตติดตั้งเสร็จแล้ว กรุณาแตะที่ เริ่มต้นใหม่ (Restart)