ILCE-7SM3

CMOS ฟูลเฟรมแสงด้านหลังที่พัฒนาขึ้นใหม่ พร้อมด้วย 12.1 เมกะพิกเซลที่ใช้งานจริง⁰ มีความเร็วการอ่านสูงเป็น 2 เท่าของ α7S II พร้อมกับความไวแสงสูงและช่วงไดนามิกกว้าง ฟิลเตอร์สีขั้นสูงเพิ่มความแม่นยำในการสร้างสี ในขณะที่ AF ตรวจจับระยะห่างของระนาบโฟกัสช่วยให้ความเสถียรและความแม่นยำของโฟกัสอัตโนมัติเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งหมดมีส่วนช่วยให้คุณภาพของภาพโดดเด่น

ระบบประมวลผลภาพ BIONZ XR^TM  มีระดับประสิทธิภาพสูงถึง 8 เท่าของโปรเซสเซอร์ก่อนหน้า ลดการหน่วงในขณะที่ปรับปรุงความสามารถในการประมวลผลแบบเรียลไทม์สำหรับทั้งภาพยนตร์และภาพนิ่ง ระบบทำการประมวลผล AF, การรู้จำภาพ และการปรับคุณภาพของภาพแบบเรียลไทม์ ในขณะที่จัดการการถ่ายโอนข้อมูล อินเตอร์เฟซผู้ใช้ และการทำงานอื่นๆ ของกล้องด้วย

การกำหนดค่าฟูลเฟรม 12.1 เมกะพิกเซล⁰ สามารถให้ความไวแสงสูงที่มีสัญญาณรบกวนต่ำตลอดช่วงความไวของกล้องโดยปรับสัญญาณเอาต์พุตจากเซนเซอร์ ช่วง ISO มาตรฐานคือ 80-102400 ซึ่งขยายเพิ่มเติมได้เป็น 40-409600 (80-409600 สำหรับภาพยนตร์) ช่วงไดนามิกกว้างเป็นพิเศษ 15 สต็อป¹ เพื่อภาพที่สวยงามสมจริงโดยไม่มี Blown Highlight ความไวแสงสูงและช่วงไดนามิกกว้างของกล้องจะช่วยขยายอิสระในการสร้างสรรค์ของคุณระหว่างการถ่ายภาพ

การบันทึก 4K ฟูลเฟรมที่ 120fps⁰ ด้วยโฟกัสอัตโนมัติเป็นไปได้ด้วยความสามารถอ่านความเร็วสูงของเซนเซอร์ภาพใหม่ที่ทำงานควบคู่ไปกับโปรเซสเซอร์ BIONZ XR ทรงพลังที่พัฒนาขึ้นใหม่ คุณภาพของภาพสูงระดับ 4K นี้พร้อมด้วยระบบอ่านเต็มพิกเซลโดยไม่ต้องใช้ Binning ช่วยให้มีภาพสโลว์โมชันหลังการถ่ายทำที่คมชัด (ช้ากว่าเวลาจริงสูงสุด 5 เท่า)¹ รวมทั้งเอฟเฟ็คโบเก้ที่พบทั่วไปในกล้องฟูลเฟรม ทั้งหมดนี้พร้อมด้วยโฟกัสอัตโนมัติความแม่นยำสูงที่ราบรื่น แม้ว่า α7S III จะมีขนาดกะทัดรัด แต่ให้ขอบเขตที่น่าประทับใจสำหรับความคิดสร้างสรรค์ของคุณ

กล้องสามารถบันทึกภายใน 4K ด้วยความลึก 10 บิตและการสุ่มตัวอย่างสี 4:2:2 เมื่อใช้การบีบอัด Long GOP หรือ All Intra ซึ่งทำให้สามารถผลักดันระดับสีของคุณไปได้ไกลขึ้น ขยายวิดีโอสำหรับความสมจริงสูงสุดของ HDR ในขณะที่ยังคงการไล่ระดับเป็นธรรมชาติสำหรับอิสระในการแก้ไขที่แท้จริง

นอกเหนือจากการบีบอัด Inter-Frame Long GOP แล้ว α7S III ยังสนับสนุนการบันทึกภายใน Intra-Frame (All-Intra)⁰ เป็นครั้งแรกในตัวกล้องรุ่น α ซึ่งแต่ละเฟรมจะถูกบันทึกแยกกันที่อัตราบิตสูงถึง 600Mbps โดยจะมีประโยชน์สำหรับการถ่ายภาพบางประเภทเนื่องจากให้ความยืดหยุ่นสูงสุดในการตัดต่อหลังการถ่ายทำ 

[1] All-Intra (All-I)  [2] Long GoP  [3] กลุ่มของรูปภาพ

โดยเป็นครั้งแรกที่การบันทึกรูปแบบ XAVC HS โดยใช้ MPEG-H HEVC/H.265 codec จะมีประสิทธิภาพการบีบอัดเพิ่มเกือบสองเท่า เมื่อเปรียบเทียบกับรูปแบบ 4K XAVC S ปกติ XAVC HS ให้วิดีโอ 10 บิตที่ละเอียดพร้อมการสุ่มตัวอย่างสี 4:2:2 ที่อัตราข้อมูลเทียบเท่าหรือต่ำกว่า มอบคุณภาพของภาพที่ดีกว่ารวมทั้งขนาดไฟล์ที่จัดการได้สะดวก⁰

กล้องรองรับเอาต์พุตข้อมูล RAW 16 บิต ไปยังเครื่องบันทึกภายนอกผ่าน HDMI เป็นครั้งแรกในซีรีส์ α เพื่อช่วยให้คุณภาพของภาพดีขึ้นและการตัดต่อหลังการถ่ายทำมีความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพมากขึ้น เอาต์พุตเป็นข้อมูล 16 บิต แบบฟูลเฟรม 4264 x 2408 (อัตราส่วนภาพ 16:9) จากเซนเซอร์ภาพพร้อมตัวเลือกอัตราเฟรมและสเปซสี 59.94p/50p/29.97p/25p/23.98p

มีเส้นโค้งแกมม่า S-Log2 และ S-Log3 ให้ใช้งาน โดย S-Log3 ออกแบบมาสำหรับการสร้างการไล่ระดับจากเงาถึงช่วงสีเทากลาง (สีเทา 18%) ช่วยให้ช่วงไดนามิกสูงถึง 15 สต็อป⁰ มีการตั้งค่าช่วงสีให้ 3 ค่า (S-Gamut, S-Gamut3 และ S-Gamut3.Cine) และ 2 ค่าหลังช่วยให้จับคู่สีของการถ่ายฟุตเทจกับกล้องถ่ายภาพยนตร์ระดับมืออาชีพของ Sony ได้ง่ายขึ้น เนื่องสีที่ตรงกัน การไล่ระดับสีในการตัดต่อหลังการถ่ายทำจะง่ายขึ้น ทำให้การใช้ α7S III ร่วมกับกล้องระดับมืออาชีพอื่นๆ สะดวกสบายมากขึ้น

เมื่อถ่ายภาพยนตร์ สามารถบันทึกไฟล์ HD Proxy อัตราบิตต่ำไปพร้อมกันกับรูปแบบอัตราบิตสูง เช่น XAVC S-I 4K และสามารถใช้ไฟล์ Proxy ขนาดเล็กเหล่านี้สำหรับการตัดต่อและดูตัวอย่างก่อนการส่งมอบงานขั้นสุดท้าย ซึ่งจะลดโหลดของคอมพิวเตอร์และช่วยให้เวิร์กโฟลว์เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไฟล์ Proxy สามารถบันทึกเป็น 10 บิต XAVC HS (1920 x 1080) หรือ 8 บิต XAVC S (1280 x 720) ⁰

โปรไฟล์รูปภาพ HLG (Hybrid Log-Gamma) HDR พร้อมด้วยพื้นที่สี BT.2020 ช่วงสีกว้างสามารถใช้สำหรับการเล่น HDR (HLG) โดยตรงบนทีวีที่เข้ากันได้ ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพสมจริงใกล้เคียงกับสิ่งที่ตาเปล่ามองเห็น โดยมีเงาและไฮไลต์ที่ละเอียด มี Blackout น้อยและ Whiteout น้อย ทั้งหมดนี้ไม่ต้องใช้การไล่ระดับสี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบันทึก 10 บิตจะสร้างระดับของการไล่ระดับอย่างละเอียดและรายละเอียดสำหรับความสมจริงที่น่าทึ่ง 

[1] ความยืดหยุ่นสูงเพื่อปรับภาพแบบละเอียดตามต้องการ (ต้องใช้การไล่ระดับสี)  [2] ภาพคุณภาพสูงทันที (ไม่ต้องใช้การไล่ระดับสี)  

ด้วยความสามารถที่ได้รับการปรับปรุงของระบบประมวลผลภาพใหม่ของ α7S III ทำให้สามารถสร้างสีและพื้นผิวของใบไม้และผิวของมนุษย์ได้อย่างสม่ำเสมอมากขึ้นโดยไม่มีการพึ่งพาแหล่งกำเนิดแสงมากเกินไป การแสดงผลการไล่ระดับยังได้รับการปรับปรุงด้วย เพื่อโทนสีผิวและ Highlight Roll-off ที่ดูดียิ่งขึ้นในภาพถ่ายบุคคล เมื่อถ่ายภาพ 4K เซนเซอร์ภาพและระบบประมวลผลใหม่จะลดการบิดเบือน Rolling Shutter ลงเหลือเพียงหนึ่งในสามของ α7S II

สืบทอดมาตรฐานด้านเทคโนโลยีและประสิทธิภาพจากกล้องถ่ายวิดีโอระดับมืออาชีพ FX9 ขนาดใหญ่ของ Sony โดย Fast Hybrid AF รวม AF ตรวจจับระยะห่างของระนาบโฟกัสกับ AF ตรวจจับคอนทราส ทำให้ได้การติดตามวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วที่มีความแม่นยำสูงและราบรื่นแม้ในช่วงกว้างที่มีระยะชัดลึกที่ตื้น ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากการโฟกัสด้วยมอเตอร์แนวราบที่ราบรื่นและพาวเวอร์ซูมของเลนส์ E-mount ของ Sony พารามิเตอร์ AF Transition Speed และ AF Subject Shift Sensitivity ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ช่วยให้การควบคุมโฟกัสยืดหยุ่นมากขึ้นตามคำขอของผู้ใช้มืออาชีพ โดยทั้งคู่จะช่วยให้เรียกคืนการตั้งค่าล่วงหน้าระหว่างการบันทึกโดยใช้ปุ่มที่กำหนดเองได้

การสนับสนุนโฟกัสอัตโนมัติของกล้องจะเป็นประโยชน์แม้ว่าคุณจะใช้โฟกัสด้วยตัวเองเป็นส่วนใหญ่ สำหรับความเร็ว AF สูงสุด ให้กดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งหรือกดปุ่ม AF-ON เหมือนที่คุณทำในการถ่ายภาพนิ่ง หรือทำการเปลี่ยน AF ที่ช้ากว่าและเหมือนภาพยนตร์มากขึ้นโดยการเริ่ม AF ผ่านคุณสมบัติ Touch Focus หรือระบบโฟกัสดวงตาแบบเรียลไทม์ผ่านการกำหนดปุ่มที่กำหนดเอง ทำให้ได้โฟกัสอัตโนมัติที่ช้าและราบรื่นด้วย AF Transition Speed ที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้า

ระบบโฟกัสภาพต่อเนื่องแบบเรียลไทม์และระบบโฟกัสดวงตาแบบเรียลไทม์ช่วยให้การสร้างภาพยนตร์ง่ายขึ้นอย่างมาก Touch Tracking เริ่มการติดตามวัตถุด้วยการสัมผัสที่ใช้งานง่ายกับจอภาพ LCD ประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับสี, รูปแบบ (ความสว่าง), ระยะทาง (ความลึก) และข้อมูลใบหน้าเพื่อให้วัตถุอยู่ในโฟกัสอย่างต่อเนื่อง จากนั้นคุณสามารถมุ่งความสนใจไปที่การจัดองค์ประกอบได้เต็มที่มากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อถ่ายภาพคนเดียวหรือใช้กิมบอล สามารถใช้การสัมผัสเพื่อใช้ AF ชั่วคราวแม้ในขณะที่คุณกำลังถ่ายภาพแบบแมนนวล

การใช้ชุดการป้องกันภาพสั่นไหวความแม่นยำสูงใหม่ เซนเซอร์ Gyro และอัลกอริธึมระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่ปรับปรุงทำให้โหมด Optical SteadyShotTM Active ของกล้องให้ระดับความแม่นยำของการชดเชยภาพออปติคอลที่จำเป็นในระหว่างการถ่ายภาพยนตร์แม้สำหรับวิดีโอ 4K⁰ ด้วยระดับของระบบป้องกันการสั่นไหวที่ไม่มีใครเทียบนี้ จึงสามารถถ่ายภาพโดยใช้เพียงกล้องนี้ ใช้ประโยชน์จากขนาดกะทัดรัดและความคล่องตัวของระบบ α [1] ติดตามการสั่นของกล้อง [2] มาตรฐาน [3] Active..

อินเตอร์เฟซออดิโอแบบดิจิตอลรวมอยู่ใน Multi Interface (MI) Shoe ของกล้องช่วยให้การบันทึกเสียงสะอาดคมชัดยิ่งขึ้นโดยไม่สูญเสียคุณภาพ นอกจากนี้ ชุดอะแดปเตอร์ XLR-K3M XLR ช่วยให้กล้องมีความสามารถการบันทึกเสียงแบบดิจิตอล 4 แชนเนล 24 บิต โดยสามารถเลือกได้ 3 รูปแบบการบันทึกจาก: 48 kHz/16 บิต 2-ch, 48 kHz/24 บิต 2-ch และ 48 kHz/24 บิต 4-ch ซึ่ง 2 รูปแบบหลังต้องใช้ชุดอะแดปเตอร์ XLR-K3M XLR

การออกแบบกล้องได้รับการปรับปรุงเพื่อป้องกันความร้อนเกินแม้ในระหว่างช่วงการบันทึกที่ยาวนาน ฮีตซิงก์แกรไฟท์อัลลอยด์รูปทรง Σ (ซิกมา) ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Sony รวมอยู่ในชุดการป้องกันภาพสั่นไหว ช่วยให้เซนเซอร์กระจายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นก่อนหน้า 5 เท่า⁰ ในขณะที่สามารถเคลื่อนไหวอย่างอิสระและหลีกเลี่ยงการรบกวนระบบป้องกันการสั่นไหว

ความยืดหยุ่นในการวางตำแหน่งกล้องและการจัดเฟรมภาพจะมาจากจอภาพปรับมุมได้รอบทิศทางแบบเปิดด้านข้างที่มีหน้าจอ LCD ที่สว่าง 3.0-type, 1.44 ล้านจุด⁰ ปุ่ม MOVIE เข้าถึงได้ง่ายบนแผงพาเนลด้านบนของกล้อง และช่องเสียบ HDMI Type-A ที่ทนทานให้การเชื่อมต่อที่เชื่อถือได้กับจอภาพภายนอก นอกจากนั้นยังปรับการจัดเรียงรายการและการตั้งค่าเริ่มต้นบนแป้นหมุนโหมดให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ระดับมืออาชีพด้วย

ชุดย่อยของการตั้งค่าของกล้องสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างอิสระสำหรับการถ่ายภาพยนตร์หรือภาพนิ่ง ซึ่งเป็นประโยชน์หากคุณต้องการใช้ ISO ที่แตกต่างกัน ม่านรับแสง (รูรับแสง) และการตั้งค่าอื่นๆ ขึ้นอยู่กับโหมดการถ่ายภาพ อีกหนึ่งคุณสมบัติที่สะดวกสบายคือการใช้โหมดการรับแสงยืดหยุ่นแทนโหมด PASM ปกติเมื่อเลือกโหมดภาพยนตร์หรือ S&Q ช่วยให้สามารถสลับได้อย่างรวดเร็วระหว่างการควบคุมอัตโนมัติและด้วยตนเองของม่านรับแสง (รูรับแสง) และความเร็วชัตเตอร์ และสามารถกำหนดฟังก์ชันไปที่ปุ่มแบบกำหนดเองเพื่อให้สลับระหว่างอัตโนมัติและด้วยตนเองได้ด้วยปุ่มเดียว

Fast Hybrid AF ใช้ AF ตรวจจับระยะห่างความหนาแน่นสูง 759 จุด (ครอบคลุมประมาณ 93% ของพื้นที่ภาพ) ร่วมกับ AF ตรวจจับคอนทราส 425 จุด นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติระบบโฟกัสดวงตาแบบเรียลไทม์ (สำหรับมนุษย์และสัตว์) และระบบโฟกัสภาพต่อเนื่องแบบเรียลไทม์เป็นครั้งแรกใน S ซีรีส์ อัลกอริธึม AF ขั้นสูงให้ AF ที่แม่นยำลงไปถึงระดับแสงต่ำที่ EV-6⁰ สำหรับโฟกัสที่แม่นยำแม้จะมองเห็นวัตถุอย่างชัดเจนด้วยตาเปล่าได้ยาก 

ชัตเตอร์ทั้งกลไกและอิเล็กทรอนิกส์สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงถึง 10fps⁰ พร้อมด้วย AF/AE โดยสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องของภาพ RAW ที่ไม่ได้บีบอัดมากกว่า 1000 ภาพได้¹ ด้วยการเพิ่มหน่วยความจำบัฟเฟอร์ของโปรเซสเซอร์ BIONZ XR และความเร็วการเขียนการ์ดหน่วยความจำ

เซนเซอร์ภาพและระบบประมวลผลภาพใหม่ให้ระดับความไวที่น่าทึ่งซึ่งเป็นลักษณะที่โดดเด่นของ S ซีรีส์ และการสร้างสีและรายละเอียดพื้นผิวที่ดีขึ้นอย่างมาก ความสามารถในการแสดงผลที่ดีขึ้นให้ภาพที่ดูสมจริงโดยมีสัญญารบกวนน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงความไวปานกลางถึงสูง เซนเซอร์แสงที่มองเห็นและ IR ใหม่ช่วยปรับปรุงสมดุลแสงสีขาวอัตโนมัติ และมีการเพิ่มตัวเลือกไฟล์ HEIF และโหมดภาพนิ่ง HLG (สำหรับภาพนิ่ง HEIF 8 บิตและ 10 บิต)⁰

คุณสมบัติลุคสร้างสรรค์ใหม่เป็นวิธีที่รวดเร็วในการสร้างอารมณ์เฉพาะในการถ่ายภาพนิ่งและภาพยนตร์โดยการเปลี่ยนพารามิเตอร์ เช่น ความสว่าง คอนทราส และความอิ่มตัวของสี โดยมีการตั้งค่าลุคสร้างสรรค์ล่วงหน้า 10 รายการในกล้อง และแต่ละรายการสามารถใช้ได้ทันที หรือปรับแต่งเพิ่มเติมโดยใช้การตั้งค่าพารามิเตอร์ 8 รายการ การตั้งค่าลุคสร้างสรรค์ที่กำหนดเองสามารถบันทึกและจัดเก็บสำหรับใช้ภายหลังได้อย่างง่ายดาย

ช่องเสียบมีเดีย 2 ช่องของกล้องเข้ากันได้กับการ์ด CFexpress Type A ใหม่ รวมทั้งการ์ด SDXC/SDHC ที่สนับสนุน UHS-I และ UHS-II Speed Class โดยการ์ด CFexpress Type A จะเป็นมาตรฐานถัดไปสำหรับหน่วยความจำขนาดกะทัดรัดที่มีความเร็วการเขียน/อ่านรวดเร็วเหมาะสำหรับทั้งการถ่ายภาพนิ่งต่อเนื่องความเร็วสูงและการบันทึกภาพยนตร์ 4K ที่อัตราบิตสูง ซึ่งสามารถล้างบัฟเฟอร์กล้องได้อย่างรวดเร็วแม้ในขณะกำลังสร้างข้อมูลภาพนิ่งและภาพยนตร์จำนวนมาก

ด้วยความละเอียดสูงสุดในระดับเดียวกัน⁰ ช่องมองภาพของ α7S III เทียบเท่ากับความละเอียดของตามนุษย์ ให้กำลังขยายของช่องมองภาพระดับชั้นนำที่ 0.90 เท่า¹ ขอบเขตการมองทแยงมุม 41º และระยะห่างของตา 25 มม. เพื่อการมองที่ชัดเจนและการบิดเบือนต่ำ การปรับปรุงในการซีลช่วยให้โอกาสที่การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงของอุณหภูมิแวดล้อมจะทำให้เกิดไอน้ำภายในลดลงอย่างมาก

เพื่อตอบสนองต่อคำขอจากช่างภาพและนักถ่ายวิดีโอมืออาชีพ โครงสร้างเมนูได้รับการออกแบบให้มืออาชีพทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แท็บเมนูอยู่ทางด้านซ้ายของจอแสดงผล ในขณะที่กลุ่มพารามิเตอร์และพารามิเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับแท็บที่เลือกจะปรากฏทางด้านขวา สามารถแสดงได้ถึง 3 ระดับพร้อมกัน ช่วยให้มองเห็นโครงสร้างเมนูได้ชัดเจน การทำงานของเมนูแบบสัมผัสช่วยให้การควบคุมรวดเร็วและง่าย

เพื่อเพิ่มการป้องกันฝุ่นและความชื้น ได้มีการใช้การซีลเพิ่มเติมกับรอยต่อทั้งหมดของตัวกล้องและฝาครอบช่องใส่แบตเตอรี่ และมีการออกแบบฝาครอบช่องเสียบมีเดียใหม่เพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อมกลางแจ้งที่รุนแรง ฟิลเตอร์ด้านหน้าเซนเซอร์ภาพจะสั่นด้วยความถี่อัลตราโซนิกที่ 70,000 รอบต่อนาทีเพื่อขจัดฝุ่นออกจากพื้นผิวเซนเซอร์ ตัวเครื่องของกล้องมีความทนทานสูงด้วยโครงสร้างแมกนีเซียมอัลลอยด์ทั้งหมด

กล้องสนับสนุน USB PD (การจ่ายไฟ) เพื่อให้ถ่ายภาพต่อเนื่องได้เป็นเวลานานโดยไม่ทำให้แบตเตอรี่ภายในหมด⁰ อุปกรณ์ชาร์จ USB และแบตเตอรี่มือถือที่เข้ากันได้กับ PD¹ สามารถเชื่อมต่อกับพอร์ต USB Type C® ของกล้องเพื่อจ่ายไฟหรือชาร์จไฟแบตเตอรี่ภายในด้วยอัตรา 3 ถึง 4 เท่า² ของพาวเวอร์ซัพพลายทั่วไป

ขณะนี้สามารถกำหนดค่าการตั้งค่าของแฟลชหรือ Wireless Radio Commander ที่ติดตั้งที่เข้ากันได้ (ทั้งคู่จำหน่ายแยกต่างหาก) จากกล้อง การตั้งค่าส่วนใหญ่ รวมถึงเอาต์พุตแสง สามารถเข้าถึงและเปลี่ยนแปลงอย่างง่ายดายโดยตรงจากเมนูของกล้องสำหรับการควบคุมแฟลชประสิทธิภาพสูงด้วยอุปกรณ์เสริม Sony ของแท้เหล่านี้ พารามิเตอร์ของแฟลชจะแสดงในภาษาการแสดงผลของกล้องที่เลือกไว้

การนำคุณสมบัติ S-Cinetone ที่มีชื่อเสียงของ Sony ⁰ซึ่งมาจากการพัฒนากล้อง Cinema Line FX9 และกล้อง CineAlta เช่น VENICE ทำให้ได้สีแบบภาพยนตร์โดยตรงจากกล้อง S-Cinetone ให้โทนสีผิวที่เป็นธรรมชาติและสีช่วงกลางที่เน้น roll-off อ่อนๆ เพื่อแสดงภาพวัตถุที่น่าประทับใจโดยไม่ต้องปรับแต่งหลังการถ่ายทำ

ตอนนี้มีใบอนุญาตฟรีตลอดชีพมาให้เพื่อเปิดใช้งาน DCI 4K / 24.00p⁰ ใบอนุญาตการอัปเกรดที่ดาวน์โหลดผ่าน Creators' Cloud [1] เพิ่มรูปแบบข้อมูลใหม่ XAVC S-I DCI 4K [2] เพิ่ม 24p (24.00p) อย่างแท้จริงเป็นตัวเลือกให้ใช้ได้ในการบันทึกอัตราเฟรม [3] ความเร็วชัตเตอร์ 1/96, 1/48 และ 1/24 จะสามารถใช้งานได้เมื่อตั้งค่า 23.98p หรือ 24.00p [4] เพิ่ม Aspect Marker 16:9 

การชดเชยความยาวโฟกัสไหลสามารถใช้กับเลนส์ที่เข้ากันได้⁰ รองรับเมทาดาตาสำหรับขั้นตอนหลังการถ่ายทำโดยใช้ Catalyst Plug-in จำเป็นต้องมีการอัปเดตซอฟต์แวร์ (เวอร์ชัน 3.00 หรือใหม่กว่า)

มีการเพิ่มการตั้งค่าเสริมการถ่ายโอน FTP อัตโนมัติ: [1] มีการเพิ่มตัวเลือก “รูปภาพที่ได้รับการป้องกันเท่านั้น” ไปยังหน้าจอการเลือกเป้าหมายการถ่ายโอน FTP อัตโนมัติ [2] มีการเพิ่มตัวเลือก “ป้องกันรูปภาพในการถ่ายโอน FTP” ไปยังฟังก์ชันการถ่ายโอน FTP [3] การหยุดชะงักของคิวการถ่ายโอน FTP อัตโนมัติสำหรับรูปภาพเดี่ยวที่ตั้งเป็นลำดับความสำคัญด้วยตนเอง รองรับ SFTP (โปรโตคอลการถ่ายโอนไฟล์ที่ปลอดภัย) จำเป็นต้องมีการอัปเดตซอฟต์แวร์ (เวอร์ชัน 3.00 หรือใหม่กว่า)

ผลิตภัณฑ์นี้เข้ากันได้กับ Final Cut Pro X และ iMovie⁰