หมายเลข ID หัวข้อ : 00091474 / ปรับปรุงครั้งล่าสุด : 06/07/2023พิมพ์

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการเชื่อมต่อทีวีเข้ากับคอมพิวเตอร์เพื่อใช้เป็นจอภาพโดยใช้สาย

    หน้านี้จะอธิบายวิธีการเชื่อมต่อผ่านทางสายไฟ ถ้าต้องการเชื่อมต่อแบบไร้สาย กรุณาอ้างอิงกับหัวข้อ วิธีการแสดงเนื้อหาคอมพิวเตอร์แบบไร้สายบนหน้าจอทีวี BRAVIA

    ขึ้นอยู่กับพอร์ตที่มีในเครื่องรับโทรทัศน์และเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน อาจจะสามารถเชื่อมต่อเครื่องรับโทรทัศน์เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน เพื่อใช้เป็นจอมอนิเตอร์ได้ อันดับแรก เราจะตรวจสอบชนิดของพอร์ตวิดีโอที่ท่านควรจะต้องมองหา :
    จะมีช่องเสียบแบบ A, B, C, D, E และ F

    • A: HDMI
    • B: VGA (RGB)
    • C: S-Video
    • D: Component Video
    • E: Composite Video
    • F: DVI

    ข้อสำคัญ: เมื่อทำการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค อาจจะจำเป็นต้องกดคีย์ฟังก์ชันผสม - เช่นคีย์ FN+F7 ในเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค VAIO - หรือคีย์ผสมอื่น เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ส่งสัญญาณวิดีโอออกมา

    หมายเหตุ: สำหรับรายละเอียดเฉพาะรุ่นเกี่ยวกับการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ VAIO กรุณาอ้างอิงกับคู่มือการใช้งานที่จัดมาให้พร้อมกับเครื่องนั้น

    ถ้าเครื่องรับโทรทัศน์ของท่านและเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างก็มีพอร์ตวิดีโอที่ตรงกัน ท่านก็สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้งสองเข้าด้วยกันได้ง่าย ๆ โดยใช้สายไฟแบบที่เหมาะสม ตัวอย่าง ถ้าหากคอมพิวเตอร์ใช้พอร์ต DVI ในการเอาต์พุตสัญญาณวิดีโอ และทีวีมีพอร์ต DVI สำหรับรับสัญญาณวิดีโอ สิ่งที่ท่านจะต้องทำก็คือเชื่อมต่อสาย DVI เข้ากับพอร์ต DVI ทั้งสอง เหมือนกับที่ใช้กับพอร์ตชนิดอื่น ๆ

    สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่จะต้องทราบก็คือ คุณภาพของวิดีโอที่แสดงบนเครื่องรับโทรทัศน์จะถูกกำหนดตามวิธีการเชื่อมต่อที่ใช้เชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น เพื่อให้ได้คุณภาพวิดีโอดีที่สุด ลองใช้การเชื่อมต่อแบบ VGA, DVI, HDMI หรือ Component Video สำหรับ S-Video และ Composite Video ก็สามารถใช้ได้แต่จะไม่ได้ความละเอียดสูงเท่า อย่างไรก็ตาม ตัวเลือกการเชื่อมต่อของท่านอาจจะถูกจำกัดตามชนิดของพอร์ตที่มีในอุปกรณ์ทั้งสอง

    เครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องรับโทรทัศน์ อาจจะไม่มีพอร์ตที่ตรงกันก็ได้ ในกรณีเช่นนี้ จะจำเป็นต้องใช้หนึ่งในวิธีการต่อไปนี้:

    1. ติดตั้งการ์ดวิดีโอในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีพอร์ตตรงกันกับพอร์ตในเครื่องรับโทรทัศน์นั้น
      หมายเหตุ: ถ้าหากใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ Apple iMac อาจจะจำเป็นต้องใช้ตัวอะแดปเตอร์ Thunderbolt เพื่อทำการเชื่อมต่อเอาต์พุตแบบ HDMI หรือ DVI เข้าไปดูในเว็ปไซต์ของ Apple หรือติดต่อกับส่วนสนับสนุนของ Apple สำหรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมในการเชื่อมต่อเครื่อง Apple iMac หรือเครื่อง คอมพิวเตอร์ Apple อื่น ๆ .
    2. การจัดซื้อตัวแปลงวิดีโอ

    หมายเหตุ:

    • สาย DVI-to-HDMI หรือ DVI-to-HDMI converter จะไม่รองรับ หรือรับประกันเมื่อใช้ทำการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มี DVI output และทีวีมีการเชื่อมต่อแบบ HDMI
    • ตัวแปลงวิดีโอสามารถจะหาซื้อได้จากร้านจำหน่ายปลีกคอมพิวเตอร์ออนไลน์หรือในพื้นที่ได้

    ถึงแม้ว่าทั้งสองตัวเลือกจะใช้ได้ง่ายกว่าการติดตั้งการ์ดวิดีโออันใหม่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ อาจจะเป็นการง่ายกว่าที่จะทำการต่อตัวแปลงวิดีโอง่าย ๆ เนื่องจากเครื่องคอมพิวเตอร์โดยมากจะใช้พอร์ต VGA/RGB ในการส่งสัญญาณวิดีโอออกมา บางทีท่านอาจจะจำเป็นต้องใช้ตัวแปลง VGA เพื่อผ่านสัญญาณไปให้กับเครื่องรับโทรทัศน์ ใช้ตัวแปลงชนิดต่อไปนี้ ตามอินพุตของวิดีโอที่มีอยู่ในเครื่องรับโทรทัศน์ของท่าน:

    • VGA-to-DVI
    • VGA-to-HDMI
    • VGA-to-Component Video
    • VGA-to-S-Video
    • VGA-to-Composite Video

    ไม่ว่าจะติดตั้งการ์ดวิดีโอที่แตกต่างหรือตัวแปลงวิดีโอ เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องมั่นใจว่าเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถจะให้เอาต์พุตวิดีโอที่มีความละเอียดที่ถูกต้องการออกมาได้ ท่านจะต้องตรวจเช็คดูในคู่มือการใช้งานของเครื่องรับโทรทัศน์ของท่านเพื่อพิจารณาดูว่ารองรับความละเอียดแบบใดบ้าง และจากนั้นจึงตั้งค่าของเครื่องคอมพิวเตอร์ตามส่วน Display Properties ใน Control Panel ของระบบปฏิบัติการนั้น ความละเอียดที่มีการใช้กันมากทั่วไปสำหรับเครื่องรับโทรทัศน์คือ 640x480 และ 800x600

    หมายเหตุ:

    • สำหรับใช้งานร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ VAIO คู่มือการใช้งานสำหรับเครื่องรับโทรทัศน์ Sony จะมีให้ดูได้ออนไลน์เช่นกัน
    • แม้ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์อาจจะสามารถให้ความละเอียดออกมาได้สูงกว่า แต่เครื่องรับโทรทัศน์อาจจะไม่สามารถรับได้ เรื่องนี้สามารถจะส่งผลให้เกิดการโอเวอร์สแกน ที่ทำให้รายละเอียดของบางหน้าจอมีการถูกตัดหรือหายไปได้ หรือสำหรับทีวีจอกว้างหรือทีวีความคมชัดสูง (HDTV) อาจจะจำเป็นต้องทำการติดตั้งซอฟต์แวร์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่รองรับความละเอียดที่สูงกว่า

    นอกจากความละเอียดนั้น เครื่องคอมพิวเตอร์ยังจะต้องใช้ความถี่สแกน (เรียกอีกอย่างว่าอัตราการรีเฟรช (Refresh rate)) ที่ใช้งานได้กับเครื่องรับโทรทัศน์นั้น ความถี่สแกนทั่วไปคือ 50Hz, 60Hz และบางครั้ง 75Hz อีกครั้ง ท่านควรจะตรวจเช็คในคู่มือการใช้งานของเครื่องรับโทรทัศน์ของท่านสำหรับรายละเอียดนี้

    คำเตือน! มีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายกับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ได้ การใช้ความถี่สแกน ที่ไม่รองรับสามารถจะทำให้เกิดความเสียหายกับเครื่องรับโทรทัศน์หรือเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นได้

    ตอนนี้ เราจะมาดูในเรื่องเกี่ยวกับการเชื่อมต่อสำหรับเสียง ถ้าหากเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นไม่มีลำโพงใด ๆ เชื่อมต่ออยู่ ดังนั้นท่านจึงจำเป็นต้องเชื่อมต่อสายออดิโอเพิ่ม เว้นแต่ท่านจะใช้การเชื่อมต่อแบบ HDMI-to-HDMI มีพอร์ตออดิโออยู่สองแบบที่เราจะต้องมองหา : แจ็คปลั๊กมินิ (Mini-plug) หรือแจ็คออดิโอคอมโปสิต (Composite audio)
    มีช่องเสียบ A แล B

    • A: ออดิโอคอมโปสิต (Composite Audio)
    • B: ปลั๊กมินิ (Mini-plug)
    • ถ้าหากเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นมีไลน์เอาต์แบบปลั๊กมินิ (Mini-plug) และเครื่องรับโทรทัศน์มีแจ็คอินพุตออดิโอคอมโปสิต กรุณาใช้ สายแบบปลั๊กมินิ (Mini-plug) ไปเป็นออดิโอคอมโปสิต
    • ถ้าหากเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นมีแจ็คเอาต์พุตออดิโอคอมโปสิต และเครื่องรับโทรทัศน์มีแจ็คอินพุตออดิโอคอมโปสิต กรุณาใช้ สายออดิโอคอมโปสิตแบบมาตรฐาน
    • ถ้าหากเครื่องคอมพิวเตอร์มีปลั๊กมินิ (Mini-plug) ไลน์เอาต์แบบ 3.5 มม.และเครื่องรับโทรทัศน์มีปลั๊กมินิ (Mini-plug) ไลน์อินแบบ 3.5 มม.กรุณาใช้ สายออดิโอแบบมินิปลั๊กเป็นมินิปลั๊ก

    หมายเหตุ: สายออดิโอที่สามารถจะให้เสียงที่เป็นสเตอริโอ (เสียงช่องด้านซ้ายและด้านขวา) กับเครื่องรับโทรทัศน์ และจะมีจำหน่ายในร้านขายปลีกอิเลกทรอนิกส์ ร้านคอมพิวเตอร์ ทั้งแบบออนไลน์หรือในพื้นที่ส่วนใหญ่