วิธีรับฟังเสียงบนทีวี BRAVIA ของท่านพร้อมกันกับหูฟัง หรืออุปกรณ์เสียงอื่นๆ

ท่านสามารถปรับให้มีเสียงทีวีออกมาจากทั้งลำโพงทีวีและหูฟัง หรือทั้งอุปกรณ์เสียงและหูฟังพร้อมกันได้ สำหรับรายละเอียดต่าง ๆ กรุณาอ้างอิงกับต่อไปนี้:

วิธีการตั้งค่าให้ทีวี

1. เชื่อมต่อหูฟังของท่านกับทีวี
2. บนรีโมทคอนโทรลทีวีกดที่ปุ่ม การตั้งค่าด่วน (Quick Settings)
3. จากเมนู ลำโพง (Speakers) กรุณาเลือกที่ ลำโพงทีวี (TV Speakers) หรือเครื่องเสียงที่เชื่อมต่อกับทีวี
   หมายเหตุ: ถ้าหาก ลำโพง (Speakers) ไม่ปรากฏในเมนู การตั้งค่าด่วน (Quick Settings) กรุณาเลือก แก้ไข (Edit) เพื่อเพิ่มเข้าไป

คำแนะนำ:

• ท่านสามารถตั้งระดับเสียงสำหรับลำโพงทีวีและหูฟังแยกกันได้
• กรุณาอ้างอิงกับวิดีโอต่อไปนี้สำหรับเคล็ดลับวิธีการให้เสียงทีวีออกมาทั้งที่หูฟัง Bluetooth และลำโพงทีวีพร้อมกัน
  
  

  Tip: Tìm hiểu cách bật hoặc tắt phụ đề khi xem video trên Internet từ YouTube

• ภาพรวม
• อุปกรณ์เสียง
• หูฟัง (Headphones)
  • วิธีการให้มีเสียงออกมาทั้งจากลำโพงทีวีและหูฟัง
  • วิธีการให้มีเสียงออกมาทั้งจากหูฟัง และเครื่อง Soundbar
• การแก้ปัญหา

ภาพรวม

• ท่านสามารถทำให้มีเสียงออกจากทั้งทีวี และอุปกรณ์เสียงได้โดยการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสียงเข้ากับช่องเสียบ ช่องต่อออกของสัญญาณเสียงดิจิทัล (Digital Audio Out) ของทีวี
• ท่านไม่สามารถจะทำให้มีเสียงออกมาจากทั้งลำโพงของทีวีและหูฟัง ได้ในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่จะให้มีเสียงออกมาจาก ลำโพงไร้สายแบบคล้องคอ (Wireless Neckband Speaker) ได้โดยการเชื่อมต่อ ตัวส่ง (Transmitter) เข้ากับช่องเสียบ เอาต์พุตเสียงดิจิทัล (Digital Audio Output) ของทีวี

อุปกรณ์เสียง

ถ้าต้องการให้มีเสียงเอาต์พุตออกจากทั้งทีวี และอุปกรณ์เสียงพร้อมกัน กรุณาอ้างอิงกับต่อไปนี้:

วิธีการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสียงและตั้งค่าทีวี

1. โดยการใช้สายดิจิทัลแบบออปติคอล (Digital Optical) เชื่อมต่อช่องต่อเข้าดิจิทัลแบบออปติคอล (Digital Optical Input) ของทีวีและอุปกรณ์เสียง
2. ถ้าหากไม่มีเสียงออกมาจากทีวี กรุณาเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าสัญญาณเสียงออกของทีวี:
   1. บนรีโมทคอนโทรลกดที่ปุ่ม การตั้งค่าด่วน (Quick Settings) ( หรือ ) หรือ เมนูการดำเนินงาน (Action Menu)
   2. เลือกที่ ช่องต่อสัญญาณเสียงออก (Audio output) หรือ ลำโพง (Speaker) จากนั้นตั้งไปที่ ลำโพงทีวี (TV Speakers)

หมายเหตุ:

• ลำโพงคล้องคอแบบไร้สาย (Wireless Neckband Speaker) SRS-NS7 นี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมต่อกับตัวส่งเข้ากับช่องเสียบ เอาต์พุตเสียงดิจิทัล (Digital Audio Output) ของทีวี จึงสามารถให้เสียงออกมาจากทั้งทีวี และลำโพงที่เชื่อมต่ออยู่พร้อมกันได้
• เมื่อเชื่อมต่อทีวี BRAVIA XR และ SRS-NS7 ไม่มีเสียงออกมาจากทีวี แต่จะมีเสียงของทีวีเล่นอยู่ในเสียงเชิงพื้นที่ (Spatial Sound) ถ้าต้องการให้เสียงออกจากทั้งทีวีและลำโพง กรุณาตั้งค่า เซอร์ราวด์ 3D (3D Surround) ไปที่ ปิด (Off)
• ถ้าหากท่านเชื่อมต่ออุปกรณ์เสียงเข้ากับแจ็คหูฟัง หรือช่องเสียบ HDMI หรือผ่าน Bluetooth ทีวีจะไม่สามารถให้เสียงออกมาได้จากลำโพงทีวี และอุปกรณ์เสียงพร้อมกันได้

หูฟัง (Headphones)

หมายเหตุ: ทีวีไม่สามารถจะให้เสียงออกมาจากทั้งลำโพงของทีวีและหูฟัง ได้ในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตามมีความเป็นไปได้ที่จะให้มีเสียงออกมาได้โดยการเชื่อมต่อ ตัวส่ง (Transmitter) เข้ากับช่องเสียบ เอาต์พุตเสียงดิจิทัล (Digital Audio Output) ของทีวีและให้มีเสียงออกมาจากอุปกรณ์นั้น

ถ้าต้องการให้มีเสียงออกมาทั้งจากลำโพงทีวีและหูฟัง

ด้านล่างเป็นอุปกรณ์ที่สามารถให้เสียงออกทางหูฟังโดยใช้ช่องเสียบ เอาต์พุตเสียงดิจิทัล (Digital Audio Output) บนทีวีได้:

• SRS-NS7 ลำโพงไร้สายแบบคล้องคอ (Wireless Neckband Speaker) / WLA-NS7 ตัวส่งสัญญาณไร้สาย (Wireless Transmitter): โดยการจับคู่หูฟังของท่านกับตัวส่งนี้ ท่านสามารถจะทำให้มีเสียงออกจากทั้งลำโพงทีวีและหูฟังได้
  หมายเหตุ:
  • มีการ ทดสอบกับหูฟัง Sony ที่ใช้ได้กับตัวส่งนี้แล้ว
  • รับฟังเสียงจากวิดีโอบนทีวี ที่ไม่ใช่-BRAVIA XR ในขณะที่ใช้ SRS-NS7 หรือ WLA-NS7 อาจจะทำการเกิดความไม่สัมพันธ์กันของวิดีโอและเสียงได้
  • เมื่อเชื่อมต่อทีวี BRAVIA XR และหูฟังที่จับคู่กับ SRS-NS7 หรือ WLA-NS7 ไม่มีเสียงออกมาจากทีวี แต่จะมีเสียงของทีวีเล่นอยู่ในเสียงเชิงพื้นที่ (Spatial Sound) ถ้าต้องการให้มีเสียงออกจากทั้งทีวีและลำโพง กรุณาตั้งค่า เซอร์ราวด์ 3D (3D Surround) ไปที่ ปิด (Off)

สำหรับวิธีการเชื่อมต่อและตั้งค่าทีวี กรุณาอ้างอิงกับตัวอย่างต่อไปนี้โดยการใช้ WLA-NS7:

1. เชื่อมต่อตัวส่งเข้ากับพอร์ต USB และพอร์ตเอาต์พุตเสียงดิจิทัลแบบออปติคอลบนทีวีโดยใช้สาย USB และสายดิจิทัลแบบออปติคอล
2. จับคู่ตัวส่ง และหูฟัง Bluetooth ของท่าน:
   1. กดค้างที่ปุ่ม (Bluetooth) บนตัวส่งนานประมาณ 5 วินาที ตัวแสดงสถานะบนตัวส่งจะเริ่มกระพริบสองครั้งเป็นสีฟ้าเพื่อแสดงว่าอยู่ในโหมดจับคู่
      
   2. ตั้งหูฟังของท่านให้เข้าสู่โหมดการจับคู่เพื่อทำการเชื่อมต่อ Bluetooth กับตัวส่ง เมื่อการเชื่อมต่อ Bluetooth ทำได้เสร็จแล้ว ตัวแสดงสถานะบนตัวส่งจะหยุดกะพริบ และติดค้างในสีฟ้า
      
3. ถ้าต้องการให้มีเสียงออกจากทั้งทีวี และอุปกรณ์เสียง กรุณาตั้งค่าที่สัญญาณเสียงออกของทีวี:
   1. บนรีโมทคอนโทรลกดที่ปุ่ม การตั้งค่าด่วน (Quick Settings) ( หรือ ) หรือ เมนูการดำเนินงาน (Action Menu)
   2. เลือกที่ ช่องต่อสัญญาณเสียงออก (Audio output) หรือ ลำโพง (Speaker) จากนั้นตั้งไปที่ ลำโพงทีวี (TV Speakers)

ถ้าต้องการให้มีเสียงออกมาทั้งจากหูฟัง และ Soundbar

ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อให้มีเสียงออกมาจากทั้งหูฟังและ Soundbar พร้อมกัน:

1. เชื่อมต่อ Soundbar ผ่านช่องเสียบ ช่องต่อออกของสัญญาณเสียงดิจิทัล (Digital Audio Output) ของทีวี
2. เชื่อมต่อหูฟังผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth หรือแจ็คหูฟัง (เฉพาะรุ่นที่รองรับได้)
3. ตั้งค่าการตั้งค่า สัญญาณเสียงออก (Audio Output) และ ช่องต่อออกของสัญญาณเสียงดิจิทัล (Digital Audio Out) บนทีวี:
   1. บนรีโมทคอนโทรลกดที่ปุ่ม การตั้งค่าด่วน (Quick Settings) ( หรือ ) หรือ เมนูการดำเนินงาน (Action Menu)
   2. เลือกที่ การตั้งค่า (Settings) → การแสดงผลและการปรับเสียง (Display & Sound)
   3. ตั้ง ช่องต่อสัญญาณเสียงออก (Audio Output) ไปที่ ระบบเสียง (Audio System) และตั้ง ช่องต่อออกของสัญญาณเสียงดิจิทัล (Digital Audio Out) ไปที่ PCM

อย่างไรก็ตามด้วยการตั้งค่าเหล่านี้เสียงของ Soundbar จะออกมาจาก 2 ช่อง (อาจจะทำให้ประสิทธิภาพของ Soundbar ลดลงได้) เราไม่แนะนำให้ทำการตั้งค่าให้มีเสียงออกมาทั้ง Soundbar และหูฟังพร้อมกัน

การแก้ปัญหา

ถ้าหากไม่มีเสียงจากอุปกรณ์เสียงหรือหูฟัง กรุณาตรวจดูดังต่อไปนี้:

1. กรุณาตรวจสอบให้มั่นใจว่าทีวี และอุปกรณ์เสียง หรือตัวส่ง (Transmitter) เชื่อมต่อกันอย่างแน่นหนาด้วยสายดิจิทัลแบบออปติคอล
2. การตั้งค่า ระดับช่องต่อออกของสัญญาณเสียงดิจิตอล (Digital Audio Out Volume):
   1. บนรีโมทคอนโทรลกดที่ปุ่ม การตั้งค่าด่วน (Quick Settings) ( หรือ ) หรือ เมนูการดำเนินงาน (Action Menu)
   2. เลือกที่ การตั้งค่า (Settings)
   3. เลือกที่ ภาพและเสียง (Display & Sound)
   4. เลือกที่ ช่องต่อสัญญาณเสียงออก (Audio Output)
   5. เลือกที่ ระดับช่องต่อออกของสัญญาณเสียงดิจิทัล (Digital Audio Out Volume) จากนั้นตั้งไปที่ สูงสุด (Max)

กรุณาอ้างอิงกับขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อให้มีเสียงออกมาจากทั้งลำโพงทีวี และหูฟัง

สำหรับ Android TV:

1. โดยการใช้รีโมทคอนโทรลที่จัดมาให้ กดที่ปุ่ม หน้าหลัก (Home)
2. เลือกที่ การตั้งค่า (Settings)
3. ขั้นตอนต่อไปจะขึ้นอยู่กับเมนูตัวเลือกในทีวีของท่าน:
   • เลือกที่ จอแสดงผลและเสียง (Display & Sound) → ช่องต่อสัญญาณเสียงออก (Audio Output)
   • เลือกที่ การปรับเสียง (Sound)
4. เลือกไปที่ หูฟัง (Headphone)/ช่องต่อสัญญาณเสียงออก (Audio Output)
5. เลือกไปที่ ช่องต่อสัญญาณเสียงออก (Audio Output) (คงที่ (Fixed))
6. บนรีโมตคอนโทรล กรุณากดที่ ปุ่มย้อนกลับ (Back)
7. เลือกไปที่ เฮดโฟนเชื่อมต่อลำโพง (Headphone Speaker Link)
   หมายเหตุ: ถ้า เฮดโฟนเชื่อมต่อลำโพง (Headphone Speaker Link) ไม่มีแสดงออกมา กรุณาเลือกที่ เสียงไปยังทั้งลำโพงทีวีและอุปกรณ์อื่นๆ (Audio to both TV Speakers & Other Device) เพื่อเปิดใช้งาน และกรุณาข้ามขั้นตอนที่ 8 ไป
8. เลือกไปที่ เปิดลำโพง (Speakers On)

สำหรับทีวีอื่น ๆ:

หมายเหตุ: ขั้นตอนต่อไปนี้เป็นตัวอย่าง สำหรับรายละเอียด กรุณาอ้างอิงกับคู่มือทีวีของท่าน

ตัวอย่างที่ 1:

1. โดยการใช้รีโมทคอนโทรลที่จัดมาให้ กดที่ปุ่ม หน้าหลัก (Home)
2. เลือกที่ การตั้งค่า (Settings)
3. เลือกที่ ค่ากำหนด (Preferences) หรือ การตั้งค่าระบบ (System Settings)
4. เลือกที่ ตั้งค่า (Setup)
5. เลือกไปที่ ตั้งค่า AV (AV Setup)
6. เลือกไปที่ หูฟัง (Headphone)/ช่องต่อสัญญาณเสียงออก (Audio Output)
7. เลือกไปที่ ช่องต่อสัญญาณเสียงออก (Audio Output)
8. กดที่ปุ่ม ย้อนกลับ (Back) หรือ ย้อนกลับ (Return) เพื่อกลับไปที่ ตั้งค่า AV (AV Setup)
9. เลือกไปที่ ช่องต่อสัญญาณเสียงออก (Audio Output)
10. เลือกไปที่ คงที่ (Fixed)

ตัวอย่างที่ 2:

1. โดยการใช้รีโมทคอนโทรลที่จัดมาให้ กดที่ปุ่ม หน้าหลัก (Home)
2. เลือกที่ การตั้งค่า (Settings)
3. เลือกที่ การตั้งค่าการปรับเสียง (Sound Settings)
4. เลือกไปที่ เฮดโฟนเชื่อมต่อลำโพง (Headphone Speaker Link)
5. เลือกที่ เปิดลำโพงทีวี (TV Speakers On)